"Romance Scam" (หลอกรักออนไลน์): ถอดขั้นตอนสร้างโปรไฟล์ปลอม สู่การเป็น "คู่แท้" ที่ต้องการเงินด่วน

ในยุคที่ความรักสามารถเริ่มต้นได้เพียงปลายนิ้วคลิก โลกออนไลน์ได้เปิดประตูสู่โอกาส แต่ก็แฝงไว้ด้วยอันตรายจาก "นักล่า" ที่ใช้ความรักเป็นเครื่องมือ "Romance Scam" หรือ "กลโกงหลอกรักออนไลน์" คือภัยเงียบที่ทำลายชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน มันไม่ใช่แค่การหลอกเอาเงิน แต่มันคือการทำลายความไว้วางใจและหัวใจ บทความนี้ SKE จะมา "ถอดบทละคร" ตั้งแต่ฉากแรกที่คนร้ายสร้างตัวตนปลอม สู่ฉากสุดท้ายที่เหยื่อสูญสิ้นทุกอย่าง

Romance Scam คืออะไร? มากกว่าแค่การหลอกเงิน

Romance Scam คือ การที่มิจฉาชีพสร้างตัวตนปลอมขึ้นมาบนโลกออนไลน์ (เช่น แอปหาคู่, โซเชียลมีเดีย) เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเหยื่อ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการ หลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทอง

ความร้ายกาจของมันอยู่ที่การใช้ "ความผูกพันทางอารมณ์" เป็นเครื่องมือ ทำให้เหยื่อสูญเสียความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อ "ช่วยเหลือ" คนรัก (จอมปลอม) ของตน

The Romance Scam Playbook: "บทละคร" ที่เล่นซ้ำๆ

แม้รายละเอียดจะแตกต่างกันไป แต่ Romance Scam ส่วนใหญ่มักจะดำเนินไปตาม "บทละคร" ที่มีขั้นตอนชัดเจน:

ฉากที่ 1: การสร้าง "ตัวละครเอก" (Crafting the Fake Persona)

Scammer จะสร้างโปรไฟล์ที่ "สมบูรณ์แบบ" เกินจริง เพื่อดึงดูดเหยื่อเป้าหมาย:

• รูปภาพโปรไฟล์: มักจะขโมยรูปภาพของบุคคลหน้าตาดี (นายแบบ/นางแบบ, ทหาร, นักธุรกิจ) จากอินเทอร์เน็ต
• เรื่องราวชีวิต (Backstory): สร้างเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าเห็นใจ เช่น:
  • อาชีพที่ดูดี/น่าเชื่อถือ: ทหารปฏิบัติภารกิจต่างแดน, วิศวกรแท่นขุดเจาะน้ำมัน, แพทย์อาสาสมัคร, นักธุรกิจระหว่างประเทศ (มักมีเหตุผลที่ "ไม่สามารถ Video Call" หรือ "มาพบเจอ" ได้ง่ายๆ)
  • สถานะโสด (พร้อมมีรักครั้งใหม่): อาจอ้างว่าเป็นพ่อม่าย/แม่ม่ายที่สูญเสียคู่ชีวิตจากเหตุการณ์น่าเศร้า หรือหย่าร้างเพราะอดีตคนรักนอกใจ (สร้างความรู้สึกอยากปลอบโยน)
  • ดูมีฐานะ แต่ไม่โอ้อวดเกินไป: สร้างภาพลักษณ์มั่นคง แต่ก็อาจมี "ปัญหา" ทางธุรกิจหรือการเงินรออยู่
• การเลือกเหยื่อ (Targeting): มักจะพุ่งเป้าไปที่กลุ่มที่อาจมีความเปราะบางทางอารมณ์ เช่น ผู้สูงอายุ, ผู้ที่เพิ่งหย่าร้างหรือเป็นม่าย, ผู้ที่มีความเหงา หรือผู้ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ความรักออนไลน์

ฉากที่ 2: การ "ทุ่มเทความรัก" (Love Bombing & Building Intimacy)

เมื่อเจอเป้าหมาย Scammer จะเริ่ม "เดินเกมรุก" ทางอารมณ์อย่างรวดเร็ว:

• Love Bombing: ทุ่มเทความสนใจอย่างหนักหน่วง ส่งข้อความหวานซึ้งตลอดเวลา, บอกรักบอกคิดถึงอย่างรวดเร็วเกินปกติ, ชมเชยเยินยอไม่ขาดปาก ทำให้เหยื่อรู้สึก "พิเศษ" และ "เป็นที่ต้องการ" อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
• สร้างความใกล้ชิดอย่างรวดเร็ว: พยายามเรียนรู้ข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อให้มากที่สุด, แชร์เรื่องราว (ปลอมๆ) ของตัวเองเพื่อให้ดูเปิดใจ, พูดถึง "อนาคตร่วมกัน" (เช่น การแต่งงาน, การย้ายมาอยู่ด้วยกัน) อย่างรวดเร็ว
• การย้ายช่องทางสื่อสาร: มักจะรีบชวนเหยื่อไปคุยในแพลตฟอร์มส่วนตัว (LINE, WhatsApp, Telegram) เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากแอปหาคู่ และสร้างความรู้สึก "เป็นส่วนตัว" มากขึ้น
• การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า: มักจะมี "ข้ออ้าง" สารพัดที่จะไม่ Video Call (กล้องเสีย, สัญญาณไม่ดี, ความลับทางทหาร) หรือเลื่อนนัดเจอตัวจริงในนาทีสุดท้ายเสมอ

เป้าหมายของฉากนี้คือการสร้าง "ความผูกพันทางอารมณ์" และ "ความไว้วางใจ" ให้เกิดขึ้นเร็วและลึกซึ้งที่สุด

ฉากที่ 3: "วิกฤตการณ์" และการ "ขอความช่วยเหลือ" (Manufacturing Crisis & The Ask)

เมื่อ Scammer มั่นใจว่าเหยื่อ "ติดเบ็ด" ทางอารมณ์แล้ว ฉากไคลแม็กซ์ก็จะเริ่มขึ้น พวกเขาจะสร้าง "เรื่องราวฉุกเฉิน" ที่ต้องการ "เงินด่วน" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้:

• ปัญหาการเดินทาง: "กำลังจะบินไปหา แต่ติดอยู่ที่ ตม. ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม", "ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว แต่บัตรเครดิตมีปัญหา"
• เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์: "ป่วยหนัก/ประสบอุบัติเหตุ ต้องการเงินค่ารักษาด่วน" (อาจเป็นตัวเอง หรืออ้างถึงลูก/พ่อแม่)
• ปัญหาทางธุรกิจ/การงาน: "ต้องการเงินหมุนเวียนด่วน ไม่งั้นธุรกิจจะล้ม", "อุปกรณ์ทำงานเสีย ต้องซื้อใหม่"
• ของขวัญติดศุลกากร: "ส่งของขวัญราคาแพงมาให้ แต่ติดอยู่ที่ศุลกากร ต้องจ่ายภาษีก่อน"

เทคนิคเพิ่มเติม:

• เริ่มต้นด้วยยอดน้อยๆ ก่อน: อาจจะเริ่มขอยืมเงินจำนวนไม่มากนักในครั้งแรก เพื่อ "ทดสอบ" และทำให้เหยื่อตายใจ
• กดดันทางอารมณ์: ใช้ความรักความผูกพันที่สร้างมาเป็นเครื่องต่อรอง ("ถ้าเรารักกันจริง ต้องช่วยกันสิ"), ทำให้เหยื่อรู้สึกผิดถ้าไม่ช่วย
• สัญญาว่าจะคืนให้ (พร้อมดอกเบี้ยงาม): ทำให้ดูเหมือนเป็นการ "ยืม" ไม่ใช่การ "ขอ"
• Sunk Cost Fallacy: เมื่อเหยื่อโอนไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็มีแนวโน้มจะโอนเพิ่มอีกเพื่อ "หวัง" จะได้เงินก้อนแรกคืน หรือเพื่อ "ช่วย" ให้ปัญหาจบลงจริงๆ

ฉากสุดท้าย: หายนะและการสูญสิ้น (The Devastation)

Scammer จะรีดไถเงินจากเหยื่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเหยื่อจะหมดตัว, เริ่มสงสัยอย่างจริงจัง, หรือมีคนอื่นเข้ามาขัดขวาง เมื่อนั้น Scammer ก็จะ:

• บล็อกการติดต่อทุกช่องทาง
• หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ทิ้งไว้เพียงเหยื่อที่หัวใจสลายและอาจต้องเผชิญกับหนี้สินมหาศาล

บทเรียน: สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

• ความสัมพันธ์ที่คืบหน้าเร็วเกินไปทางอารมณ์
• คู่สนทนาที่ไม่ยอม Video Call หรือหาข้ออ้างเลื่อนนัดเจอเสมอ
• เรื่องราวชีวิตที่ดูดีเกินจริง หรือน่าสงสารเกินไป
• การขอเงิน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยเฉพาะจากคนที่คุณไม่เคยเจอหน้า
• การกดดันให้โอนเงิน หรือทำให้คุณรู้สึกผิดถ้าไม่ช่วย

สรุป: รักแท้ในโลกออนไลน์มีจริง แต่ต้อง "มีสติ" เสมอ

Romance Scam คืออาชญากรรมที่โหดร้าย เพราะมันโจมตีทั้งเงินในกระเป๋าและหัวใจของเรา

จงอย่าให้ "ความเหงา" หรือ "ความปรารถนาในความรัก" มาบดบัง "วิจารณญาณ" ของคุณ ตรวจสอบ, ตั้งคำถาม, และปรึกษาคนรอบข้างเสมอเมื่อมีความสัมพันธ์ใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ และที่สำคัญที่สุด: **"อย่าโอนเงินให้กับคนที่คุณไม่เคยเจอหน้าเด็ดขาด"**

---

ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:** (สำหรับโซล่าเซลล์เท่านั้นนะครับ! )
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน