AI Deepfake Voice Scam: เสียง "ลูก/หลานปลอม" โทรมาขอเงิน | SKE

"AI Deepfake Voice Scam": เมื่อ "เสียง" ของคนที่คุณรัก ถูกปลอมเพื่อโทรมาขอเงิน
จินตนาการถึงฝันร้ายที่สุด: เสียงโทรศัพท์กลางดึก ปลายสายคือเสียงลูกหรือหลานที่คุณคุ้นเคย กำลังร้องไห้และบอกว่าเกิดเรื่องร้ายแรง ต้องการเงินด่วนที่สุด... แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเสียงนั้นไม่ใช่ "ตัวจริง"? นี่คือความน่าสะพรึงกลัวของ "AI Deepfake Voice Scam" กลโกงยุคใหม่ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ "โคลนนิ่งเสียง" คนที่คุณรักได้อย่างแนบเนียนจนน่าตกใจ บทความนี้ SKE จะพาไปทำความเข้าใจภัยคุกคามที่กำลังใกล้ตัวเข้ามาเรื่อยๆ นี้
AI Deepfake Voice คืออะไร? ทำไมถึง "เหมือนจริง"?
AI Deepfake Voice คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถ "สังเคราะห์" หรือ "เลียนแบบ" เสียงพูดของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ได้อย่างสมจริง โดยอาศัยการเรียนรู้ (Machine Learning) จาก "ไฟล์เสียงตัวอย่าง" ของบุคคลนั้นๆ
- ต้องการอะไร?: AI ต้องการเพียง "คลิปเสียงสั้นๆ" (อาจจะแค่ไม่กี่วินาที) ของเป้าหมาย เพื่อนำไปวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของเสียง เช่น น้ำเสียง, ความเร็ว, สำเนียง, จังหวะการพูด
- ทำได้อย่างไร?: เมื่อ AI "เรียนรู้" เสียงต้นแบบแล้ว มันสามารถ "สร้าง" เสียงพูดใหม่ตามข้อความ (Text-to-Speech) ที่ป้อนเข้าไป โดยให้มีลักษณะเหมือนเสียงต้นฉบับได้เกือบ 100% รวมถึงการใส่ "อารมณ์" (เช่น เสียงสั่นเครือ, เสียงตกใจ) เข้าไปด้วย
- น่ากลัวแค่ไหน?: เทคโนโลยีนี้พัฒนาไปเร็วมาก จนปัจจุบันเสียงที่สังเคราะห์ขึ้นมา แทบจะแยกไม่ออกจากเสียงจริงได้ด้วยหูเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟังผ่านโทรศัพท์ที่คุณภาพเสียงถูกลดทอนลงอยู่แล้ว
"บทละคร" เดิม เพิ่มเติมคือ "เสียงปลอม": กลไกของ AI Deepfake Voice Scam
Scammer นำเทคโนโลยี AI Deepfake Voice มา "อัปเกรด" กลโกงหลอกเป็นญาติ (Grandparent Scam) ให้แนบเนียนและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนคล้ายเดิม แต่เพิ่มความน่ากลัวด้วยเสียงปลอม:
1. การหา "เสียงตัวอย่าง" (Acquiring Voice Samples)
นี่คือขั้นตอนแรกที่สำคัญ Scammer อาจได้เสียงของคุณหรือคนในครอบครัวมาจาก:
- โซเชียลมีเดีย: คลิปวิดีโอที่คุณโพสต์ (TikTok, Facebook Story, Instagram Reels), คลิปเสียงที่เคยส่งในแชท
- ข้อความเสียง (Voicemail): หากเบอร์โทรศัพท์ของคุณรั่วไหล Scammer อาจโทรเข้ามาแล้วปล่อยให้คุณฝากข้อความเสียง เพื่อบันทึกเสียงของคุณ
- การโทรหลอกลวงเบื้องต้น: อาจมีการโทรเข้ามาทำทีเป็นสำรวจข้อมูล หรือชวนคุยเรื่องทั่วไป เพื่อแอบบันทึกเสียงของคุณ
(น่าตกใจที่ AI ต้องการเสียงตัวอย่างเพียงสั้นๆ เท่านั้น!)
2. การ "โคลนนิ่ง" เสียงด้วย AI (Voice Cloning)
Scammer นำไฟล์เสียงตัวอย่างไปป้อนเข้าโปรแกรม AI Voice Cloning (ซึ่งมีทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย) เพื่อสร้าง "โมเดลเสียง" ของเป้าหมาย
3. การสร้าง "สถานการณ์ฉุกเฉิน" (Crafting the Crisis)
เหมือนกับ Grandparent Scam แบบดั้งเดิม Scammer จะสร้างเรื่องราวที่ต้องการเงินด่วน เช่น:
- ประสบอุบัติเหตุ ต้องการค่ารักษา/ค่าซ่อมรถ
- ถูกจับกุม ต้องการเงินประกันตัว
- ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ต้องการเงินค่าเดินทางกลับบ้าน
4. การโทรศัพท์ด้วย "เสียงปลอม" (Making the Call with Deepfake Voice)
Scammer โทรหาเหยื่อ (มักเป็นพ่อแม่, ปู่ย่าตายาย) โดยใช้เทคโนโลยี Real-time Voice Cloning:
- Scammer พูดใส่ไมโครโฟนตามสคริปต์
- AI แปลงเสียงพูดของ Scammer ให้กลายเป็น "เสียงโคลน" ของลูก/หลานเป้าหมาย แล้วส่งออกไปที่ปลายสาย
- มักจะมีการใส่ "เสียงประกอบ" เช่น เสียงร้องไห้, เสียงไซเรน, เสียงตะโกน เพื่อเพิ่มความสมจริงและความตื่นตระหนก
ผลกระทบทางจิตวิทยา: การได้ยิน "เสียง" ของคนที่รักกำลังตกอยู่ในอันตราย จะกระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นห่วงอย่างรุนแรง ทำให้สมองส่วนเหตุผลหยุดทำงานทันที เหยื่อจะเชื่อสนิทใจว่าเป็นลูก/หลานจริงๆ
5. การเร่งรัดและขอร้อง "อย่าบอกใคร" (Urgency & Secrecy)
Scammer จะใช้เทคนิคเดิมๆ คือ สร้างความเร่งด่วน ("ต้องโอนภายใน 10 นาที!") และขอร้องไม่ให้บอกใคร ("อย่าเพิ่งบอกพ่อแม่นะ!") เพื่อป้องกันการตรวจสอบ
6. การหลอกให้โอนเงิน (The Transfer)
แนะนำวิธีการโอนเงินที่เร็วและตามรอยยาก เช่น โอนเข้าบัญชีม้า หรือซื้อบัตรเติมเงิน
ทำไมถึง "อันตราย" กว่าเดิมมาก?
- ทำลายเกราะป้องกันทางเสียง: เสียงคือหนึ่งในวิธีที่เราใช้ยืนยันตัวตนคนที่เรารัก การปลอมเสียงได้เหมือนจริง ทำให้การแยกแยะยากขึ้นอย่างมหาศาล
- โจมตีอารมณ์โดยตรง: การได้ยินเสียงคนรักเดือดร้อน มีพลังทางอารมณ์สูงกว่าการอ่านข้อความหรือฟังเสียงคนแปลกหน้ามาก
- เทคโนโลยีเข้าถึงง่ายขึ้น: เครื่องมือ AI Voice Cloning เริ่มมีราคาถูกลงและใช้งานง่ายขึ้น ทำให้ Scammer นำมาใช้ได้ง่ายกว่าเดิม
วิธีป้องกัน "หู" ของคุณและคนที่คุณรัก
การป้องกันต้องอาศัย "สติ" และ "การตรวจสอบ" ที่เข้มงวดกว่าเดิม:
- "หยุด คิด ถาม โทรกลับ" (สำคัญที่สุด!):
- หยุด: ตั้งสติ อย่าเพิ่งเชื่อ แม้เสียงจะเหมือนแค่ไหน
- คิด: เรื่องราวสมเหตุสมผลหรือไม่? ทำไมถึงติดต่อเราโดยตรง?
- ถาม: ถามคำถาม "เฉพาะตัว" ที่มีแต่คนในครอบครัวรู้ (ชื่อเล่นสัตว์เลี้ยงตัวแรก, สถานที่เที่ยวล่าสุด) Scammer ที่ใช้ AI อาจตอบไม่ได้ หรือตอบผิด
- โทรกลับ!: **วางสายทันที** แล้วโทรกลับไปหาลูก/หลาน ด้วย **"เบอร์โทรศัพท์เดิมที่คุณมี"** (ห้ามใช้เบอร์ที่โทรเข้ามา) หรือโทรหาคนอื่นๆ ในครอบครัวเพื่อยืนยัน
- ตั้ง "รหัสลับประจำครอบครัว" (Family Code Word): ตกลงคำหรือวลีลับที่ใช้ยืนยันตัวตนในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากปลายสายบอกรหัสลับไม่ได้ = ปลอม 100%
- จำกัดการแชร์ "เสียง" บนโลกออนไลน์: ระมัดระวังการโพสต์คลิปวิดีโอหรือคลิปเสียงของตัวเองและคนในครอบครัวบนโซเชียลมีเดียสาธารณะ
- สร้างความตระหนักรู้ให้ผู้สูงอายุ: อธิบายกลโกงรูปแบบใหม่นี้ให้พวกท่านทราบ และย้ำถึงขั้นตอน "หยุด คิด ถาม โทรกลับ"
สรุป: อย่าเชื่อ "หู" ของคุณเสมอไปในยุค AI
AI Deepfake Voice Scam คือภัยคุกคามที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถถูกนำมาใช้ในทางที่เลวร้ายได้อย่างไร มันท้าทายสัญชาตญาณพื้นฐานที่สุดของเราในการจดจำเสียงคนที่เรารัก
เกราะป้องกันที่ดีที่สุดคือ "กระบวนการตรวจสอบ" ที่เข้มงวด อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์เพียงอย่างเดียว จงใช้เวลาสักครู่เพื่อ "หยุด" และ "ตรวจสอบ" เสมอ ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงิน
---
ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:** (สำหรับโซล่าเซลล์เท่านั้นนะครับ! )
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน
Miss Kaewthip



