แชร์

"แนวรับ-แนวต้าน" (Support/Resistance): เส้นมหัศจรรย์ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องตีเป็น | SKE

IMG_2598.jpeg Miss Kaewthip
อัพเดทล่าสุด: 30 ต.ค. 2025
28 ผู้เข้าชม

"แนวรับ-แนวต้าน" (Support/Resistance): เส้นมหัศจรรย์ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องตีเป็น | SKE

หากการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือ "ภาษา" ของตลาด การอ่าน "แนวรับ-แนวต้าน" (Support & Resistance) ก็คือ "ไวยากรณ์" ที่สำคัญที่สุด มันไม่ใช่เส้นมหัศจรรย์ที่ขีดแล้วราคาจะหยุดตามสั่ง แต่มันคือ "แผนที่จิตวิทยามวลชน" ที่ชัดเจนที่สุด

เทรดเดอร์มืออาชีพทุกคนใช้ S/R เป็นแกนหลักในการวางแผน ไม่ว่าพวกเขาจะใช้เครื่องมืออื่นที่ซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม การ "ตีเส้น" เหล่านี้เป็น คือทักษะพื้นฐานที่แยกระหว่าง "การเดาสุ่ม" ออกจาก "การเทรดอย่างมีระบบ"

บทความนี้จะเจาะลึกว่า S/R คืออะไร, ทำไมมันถึง "เวิร์ค" (จิตวิทยาที่ซ่อนอยู่), และจะนำไปใช้หาจังหวะซื้อ-ขายได้อย่างไร


1. แนวรับ (Support) และ แนวต้าน (Resistance) คืออะไร?

หากอธิบายให้ง่ายที่สุด S/R คือการเปรียบเทียบราคาหุ้นกับ "ลูกบอล" ใน "ห้อง":

  • แนวรับ (Support) = พื้นห้อง:
    คือระดับราคาที่ "ต่ำกว่า" ราคาปัจจุบัน เมื่อราคาหุ้น (ลูกบอล) ตกลงมาถึงจุดนี้ มักจะมี "แรงซื้อ" (Demand) ที่แข็งแกร่งเข้ามาพยุง (เหมือนลูกบอลเด้งบนพื้น) ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะ "หยุดลง" หรือ "เด้งกลับขึ้นไป"
  • แนวต้าน (Resistance) = เพดานห้อง:
    คือระดับราคาที่ "สูงกว่า" ราคาปัจจุบัน เมื่อราคาหุ้น (ลูกบอล) วิ่งขึ้นไปถึงจุดนี้ มักจะมี "แรงขาย" (Supply) ที่แข็งแกร่งเข้ามากดดัน (เหมือนลูกบอลชนเพดาน) ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะ "หยุดขึ้น" หรือ "ย่อตัวลงมา"

2. ทำไมมันถึงเวิร์ค? (จิตวิทยามวลชนที่ซ่อนอยู่)

S/R ไม่ใช่เวทมนตร์ มันทำงานได้เพราะ "จิตวิทยามนุษย์" ล้วนๆ มันคือระดับราคาที่ตลาด "จดจำ" (Market Memory) ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ 2 อย่างหลัก: ความโลภ (Greed) และ ความกลัว/ความเสียดาย (Fear/Regret)

ลองมาดูว่าใครกำลังทำอะไรที่เส้นเหล่านี้:

ที่แนวรับ (Support) ที่แนวต้าน (Resistance)
"คนตกรถ" (ผู้เสียดาย) กำลังรอซื้อ:
"ครั้งที่แล้วราคา 50 บาท ไม่กล้าซื้อ พอมันเด้งไป 60 บาท เสียดายมาก! ถ้าราคากลับมา 50 บาทอีกครั้ง ฉันจะซื้อแน่นอน"
"คนติดดอย" (ผู้รอคอย) กำลังรอขาย:
"ซื้อไว้ที่ 60 บาท ตอนนี้มันลงไป 50 บาท ขาดทุนอยู่ พอราคากลับมาที่ 60 บาท (ทุนเดิม) ดีใจจัง! รีบขายทิ้งให้เท่าทุนก่อนดีกว่า"
"นักลงทุน" (ผู้เห็นคุณค่า) กำลังรอซื้อ:
"ราคา 50 บาท คือราคาที่ฉันประเมินแล้วว่า 'ถูก' และ 'คุ้มค่า' ฉันจะรอซื้อที่ราคานี้"
"นักเก็งกำไร" (ผู้ทำกำไร) กำลังรอขาย:
"ฉันซื้อมาจากแนวรับ 50 บาท ตอนนี้ 60 บาท ถึงแนวต้านแล้ว ได้กำไรพอใจแล้ว ขายทำกำไรก่อนดีกว่า"
สรุปจิตวิทยา:

แนวรับ คือจุดที่ "แรงซื้อ" จากหลายกลุ่มมารวมตัวกัน (ทั้งคนตกรถและคนเห็นของถูก)

แนวต้าน คือจุดที่ "แรงขาย" จากหลายกลุ่มมารวมตัวกัน (ทั้งคนติดดอยและคนทำกำไร)

นี่คือเหตุผลที่ระดับราคาเหล่านี้มักจะมีความสำคัญทางสถิติ


3. วิธีตีเส้น S/R "แบบมือโปร" (ไม่ใช่เส้นบางๆ)

มือใหม่มักทำพลาดโดยการพยายามตีเส้น S/R ให้เป็น "เส้นตรง" บางๆ ที่ราคาเป๊ะๆ ซึ่งในความจริง ตลาดมีความผันผวน

กฎของมือโปร: "S/R คือ 'โซน' (Zone) ไม่ใช่ 'เส้น' (Line)"

แนวรับ-แนวต้าน คือ "พื้นที่" หรือ "โซนราคา" ที่มีการต่อสู้กัน ไม่ใช่ราคาใดราคาหนึ่ง การตีเป็น "กล่อง" หรือ "โซน" จะมีประสิทธิภาพมากกว่า

ขั้นตอนการตีเส้น (หรือ โซน)

  1. ซูมออก (Zoom Out): ปรับ Timeframe ของกราฟให้กว้างขึ้น (เช่น กราฟ Day หรือ Week) เพื่อมองเห็น "ภาพใหญ่" ของแนวโน้ม
  2. หาจุดกลับตัว (Swing Points): มองหา "ยอดเขา" (Swing Highs) และ "หุบเขา" (Swing Lows) ที่เห็นได้ชัดเจน
  3. ลากเส้นแนวนอน (Horizontal Line):
    • แนวต้าน: ลากเส้นเชื่อม "ยอดเขา" (Swing Highs) อย่างน้อย 2-3 จุด ที่อยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกัน
    • แนวรับ: ลากเส้นเชื่อม "หุบเขา" (Swing Lows) อย่างน้อย 2-3 จุด ที่อยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกัน
  4. ปรับเป็น "โซน" (Draw the Zone): ขยายเส้นบางๆ นั้นให้กลายเป็น "กล่อง" หรือ "โซน" เพื่อให้ครอบคลุม "ปลายไส้เทียน" (Wicks) และ "เนื้อเทียน" (Bodies) ส่วนใหญ่ในบริเวณนั้น

ยิ่งเส้นนั้นถูก "ทดสอบ" (Touched) บ่อยเท่าไหร่ (เช่น แตะ 3-4 ครั้งแล้วไม่ผ่าน) เส้นนั้นยิ่ง "แข็งแกร่ง" และมีความน่าเชื่อถือสูง


4. 2 กลยุทธ์หลักในการใช้ S/R (สัญญาณซื้อ/ขาย)

เมื่อตีโซน S/R เป็นแล้ว มี 2 วิธีหลักในการใช้มันเพื่อเทรด:

[Image illustrating the difference between a Bounce signal and a Breakout signal at a resistance line]
กลยุทธ์ที่ 1: เทรดในกรอบ (The "Bounce") กลยุทธ์ที่ 2: เทรดทะลุกรอบ (The "Breakout")
แนวคิด: พนันว่า "เส้นจะเอาอยู่" (พื้น/เพดาน ยังแข็งแรง) แนวคิด: พนันว่า "เส้นจะทะลุ" (พื้น/เพดาน พังแล้ว)
สัญญาณซื้อ (Buy): เมื่อราคาตกลงมา "ทดสอบ" โซนแนวรับ และเกิด "สัญญาณกลับตัว" (เช่น แท่งเทียน Hammer หรือ Bullish Engulfing) สัญญาณซื้อ (Buy): เมื่อราคาวิ่ง "ทะลุ" (Breakout) โซนแนวต้านขึ้นไปได้ "อย่างแข็งแกร่ง" (มักจะมาพร้อม Volume ที่สูงผิดปกติ)
สัญญาณขาย (Sell): เมื่อราคาวิ่งขึ้นไป "ทดสอบ" โซนแนวต้าน และเกิด "สัญญาณกลับตัว" (เช่น แท่งเทียน Shooting Star หรือ Bearish Engulfing) สัญญาณขาย (Sell/Short): เมื่อราคาวิ่ง "ทะลุ" (Breakdown) โซนแนวรับลงไป "อย่างแข็งแกร่ง" (มักจะมาพร้อม Volume)

5. แนวคิดขั้นสูง: การสลับบทบาท (The Role Reversal)

นี่คือแนวคิดที่ทรงพลังที่สุดของ S/R ที่มือใหม่มักมองข้าม:

"เมื่อ S/R ถูกทำลาย... มันจะ 'สลับบทบาท' กันทันที"

[Image showing the "Role Reversal" where broken resistance becomes new support]
  • เมื่อ "แนวต้าน" (เพดาน) ถูกทะลุ (Breakout)... มันจะกลายเป็น "แนวรับ" (พื้น) ใหม่ทันที
    จิตวิทยา: คนที่ "ตกรถ" (ไม่ได้ซื้อตอนทะลุ) และคนที่ "ขายหมู" (ขายเร็วไป) จะ "เสียดาย" และรอคอยให้ราคาย่อกลับลงมาทดสอบที่ "เพดานเก่า" (ซึ่งตอนนี้กลายเป็นพื้นใหม่) เพื่อ "ซื้อ" นี่เรียกว่าการ "Throwback" หรือ "Re-test" และเป็นจุดซื้อที่ปลอดภัยที่สุดจุดหนึ่ง
  • เมื่อ "แนวรับ" (พื้น) ถูกทะลุ (Breakdown)... มันจะกลายเป็น "แนวต้าน" (เพดาน) ใหม่ทันที
    จิตวิทยา: คนที่ "ขายไม่ทัน" ตอนที่พื้นถล่ม จะ "รอคอย" ให้ราคามันเด้ง (Pullback) กลับขึ้นไปที่ "พื้นเก่า" (ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเพดานใหม่) เพื่อ "ขายหนี" เอาตัวรอด

สรุป

แนวรับ-แนวต้าน คือเครื่องมือพื้นฐานอันดับ 1 ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องฝึกฝน มันไม่ใช่แค่การขีดเส้นบนกราฟ แต่คือการ "อ่านใจ" ของมวลชนที่กำลังต่อสู้กัน การฝึกตี "โซน" เหล่านี้ให้แม่นยำ และทำความเข้าใจว่าควรจะ "เล่นเด้ง" (Bounce) หรือ "เล่นทะลุ" (Breakout) คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการยกระดับจากการ "เดา" ไปสู่การ "เทรดอย่างมืออาชีพ"


แหล่งอ้างอิง (References)

  1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET). (2568). การวิเคราะห์ทางเทคนิค: แนวรับและแนวต้าน. เข้าถึงได้จาก www.set.or.th
  2. Settrade. (2568). Support & Resistance. เข้าถึงได้จาก www.settrade.com
  3. Murphy, J. J. (1999). Technical Analysis of the Financial Markets. (หนังสืออ้างอิงคลาสสิกด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค)

SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!

บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)

(ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้ง Sungrow อย่างเป็นทางการ)

โทร: 045-905-215

เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th

Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon

LINE: @760fgpmx

#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย

© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.


IMG_2598.jpeg
Miss Kaewthip
Sharing management perspectives and strategies from direct experience as a Managing Director, with drive and determination inspired by Confucian philosophy.
บทความที่เกี่ยวข้อง
"ตั๋งโต๊ะ" ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
"เตียวเสี้ยน" และการอ่านใจ: การใช้ "จุดอ่อน" (ความใคร่) ของเป้าหมาย | SKE
เจาะลึก "เตียวเสี้ยน" (Diaochan) และ "กลสาวงาม" (Beauty Trap) วิเคราะห์จิตวิทยาการ "อ่านใจ" (Mind Reading) และการใช้ "จุดอ่อน" (ความใคร่, อัตตา) ของ ตั๋งโต๊ะ และ ลิโป้ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง
"ตั๋งโต๊ะ" ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
icon-whatsapp
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?
เริ่มแชท
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ