“การลดค่าไฟด้วยโซล่าเซลล์: หลักการและข้อเท็จจริงที่ควรรู้”
การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ (Photovoltaic System หรือ PV System)
ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าได้จริง ตามหลักการของการลดความต้องการพลังงาน (Demand Reduction) จากระบบจำหน่ายของการไฟฟ้า
หลักการทำงาน:
ระบบโซล่าเซลล์จะเปลี่ยน พลังงานแสงอาทิตย์ เป็น พลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และส่งผ่านอินเวอร์เตอร์เพื่อแปลงเป็น ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งสามารถใช้งานได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปในบ้านหรือกิจการ
การลดค่าไฟ:
ในระบบ On-Grid หรือ Grid-Tied
ไฟที่ผลิตได้จากโซล่าเซลล์จะถูกจ่ายเข้าสู่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านก่อน (Load Consumption)
หากไฟจากโซล่าเพียงพอ เครื่องใช้ไฟฟ้าจะใช้ไฟจากแสงอาทิตย์เป็นหลัก
หากไม่พอ จะดึงจากการไฟฟ้าเพิ่มเติม
ส่งผลให้หน่วยไฟที่ซื้อจากการไฟฟ้า (kWh) ลดลงโดยตรง
ในระบบ Self-Consumption
จะไม่มีการขายไฟฟ้าคืน แต่ผลิตเพื่อใช้เอง 100%
การออกแบบขนาดระบบให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้ไฟในช่วงกลางวัน จะยิ่งเพิ่มอัตราการประหยัด
การคำนวณ:
การประหยัดขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้:
ปริมาณแสงอาทิตย์ (Irradiation):
ภาคอีสานของไทยเฉลี่ย 4.85.2 kWh/m²/วัน
ขนาดของระบบ (kWp):
เช่น 5kWp ผลิตได้เฉลี่ย 500-700 หน่วย/เดือน
ราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ย:
เฉลี่ย ~4.5 บาท/หน่วย (ขึ้นกับประเภทมิเตอร์)
พฤติกรรมการใช้ไฟ:
หากใช้ไฟช่วงกลางวันเยอะ จะสามารถใช้ไฟจากโซล่าได้เต็มประสิทธิภาพ
สูตรคำนวณคร่าว ๆ:
หน่วยไฟที่ประหยัดต่อเดือน ขนาดระบบ (kW) × 4.5 หน่วย × 30 วัน
มูลค่าที่ประหยัดได้ หน่วย × ราคาค่าไฟ (บาท)
ตัวอย่าง: ระบบ 5kW
5 x 4.5 x 30 = 675 หน่วย/เดือน
675 x 4.5 = 3,037.50 บาท/เดือน (โดยประมาณ)
บทสรุป:
ระบบโซล่าเซลล์สามารถลดค่าไฟฟ้าได้จริง
โดยอาศัยหลักการของ การลดภาระโหลดไฟฟ้า (Load Reduction)
ผ่านการผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์
ซึ่งเป็นแนวทางที่สนับสนุนโดยภาครัฐ และมีความคุ้มค่าในระยะยาว
อ้างอิงตามมาตรฐานราชการ
หลักการ:
ระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar PV System) ที่ติดตั้งแบบ ออนกริด (On-Grid) หรือ ระบบผลิตเพื่อใช้เอง (Self-Consumption) จะช่วย ลดพลังงานไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้า โดยอ้างอิงจากเอกสารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น:
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
คู่มือการเชื่อมต่อระบบโซล่าเซลล์กับระบบจำหน่าย (ปี 2563)
อธิบายว่า:
การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอง จะช่วยลดปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ผู้ใช้ต้องซื้อจากการไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
ในเอกสาร แนวทางการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop)
ได้ให้ความหมายว่า:
ระบบโซล่าเซลล์สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองในเวลากลางวัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง จึงสามารถลดปริมาณหน่วยไฟฟ้าที่ต้องชำระรายเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญ
IEEE Std 1547 2018 (IEEE Standard for Interconnection and Interoperability of Distributed Energy Resources)
ระบุหลักการว่า:
Distributed generation (DG) systems such as PV can be interconnected to reduce load demand from the utility grid, thus reducing energy bills.
การคำนวณค่าประหยัด (ตามแนวทางราชการ)
อ้างอิงจากแนวทางของ กฟภ. และ กฟน. การประหยัดพลังงานสามารถประเมินได้จากสูตร:
การประหยัดต่อเดือน (บาท) = ขนาดระบบ (kWp) × ค่าผลิตเฉลี่ย (kWh/kWp/day) × 30 วัน × ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (บาท/kWh)
ตัวอย่าง:
ขนาดระบบ: 5 kWp
ค่าผลิตเฉลี่ย: 4.5 หน่วย/kWp/วัน (ภาคอีสาน)
ค่าไฟเฉลี่ย: 4.5 บาท/หน่วย
ประหยัดได้ = 5 × 4.5 × 30 × 4.5 = 3,037.50 บาท/เดือน
การรับรองและสนับสนุน:
โครงการ Net Metering / Self-Consumption อยู่ในแผน PDP (Power Development Plan) ของกระทรวงพลังงาน
ภาครัฐมีการสนับสนุนให้ใช้พลังงานหมุนเวียน (ตามแผน AEDP 2018)
บทสรุปทางวิชาการ:
ระบบโซล่าเซลล์แบบผลิตเพื่อใช้เองสามารถลดค่าไฟฟ้าได้จริง
โดยมีฐานการอ้างอิงจาก กฟภ., กฟน., และมาตรฐาน IEEE
ทั้งในเชิงเทคนิคและเชิงนโยบายของประเทศ
เหมาะกับการใช้งานในระดับครัวเรือน ธุรกิจ SME และโรงงานอุตสาหกรรม