เจาะลึกงานวิจัย 'Agrivoltaics' จาก Fraunhofer ISE: เมื่อไร่นาและโซลาร์ฟาร์มคือสิ่งเดียวกัน (ฉบับ White Paper)
อัพเดทล่าสุด: 3 ส.ค. 2025
4 ผู้เข้าชม
เจาะลึกงานวิจัย 'Agrivoltaics' จาก Fraunhofer ISE (ฉบับ White Paper): เมื่อไร่นาและโซลาร์ฟาร์มคือสิ่งเดียวกัน
บทนำ:
ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายแฝด ทั้งความมั่นคงทางพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ความขัดแย้งในการใช้ที่ดินระหว่างภาคเกษตรกรรม (Food) และภาคพลังงาน (Energy) ก็ทวีความรุนแรงขึ้น สถาบัน Fraunhofer เพื่อระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Fraunhofer ISE) ในเยอรมนี ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านโซลาร์เซลล์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้นำเสนอทางออกที่สง่างามและทรงประสิทธิภาพสำหรับปัญหานี้ ผ่านแนวคิดที่เรียกว่า "Agrivoltaics" (APV)
บทวิเคราะห์เชิงลึกฉบับนี้ จะพาไปสำรวจผลการวิจัยจากโครงการนำร่องที่สำคัญที่สุดของพวกเขา, เจาะลึกหลักการทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความสำเร็จ, วิเคราะห์โมเดลทางการเงิน, และถอดบทเรียนสู่การประยุกต์ใช้จริงในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย
บทที่ 1: The APV-RESOLA Project - กรณีศึกษาปฏิวัติโลกจากเฮ็กเกลบัค
โครงการวิจัยนำร่อง "APV-RESOLA" ซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2016 ณ ฟาร์มในเมืองเฮ็กเกลบัค คือรากฐานเชิงประจักษ์ที่พิสูจน์แนวคิด Agrivoltaics
ข้อกำหนดทางวิศวกรรม (Technical Specifications): โครงการประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ชนิดสองหน้า (Bifacial) จำนวน 720 แผง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 245 กิโลวัตต์พีค (kWp) ถูกติดตั้งบนโครงสร้างเหล็กยกสูง 5 เมตร โดยเว้นระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 8 เมตร เพื่อให้แสงกระจายตัวลงสู่พื้นดินได้อย่างเหมาะสมและอนุญาตให้เครื่องจักรกลเกษตรขนาดมาตรฐานทำงานได้
ผลการวิจัยเชิงปริมาณ:
ประสิทธิภาพการใช้ที่ดิน (Land Use Efficiency - LUE): ตัวชี้วัดนี้คือหัวใจของความสำเร็จ โครงการ APV-RESOLA สามารถทำค่า LUE ได้สูงถึง 186% ซึ่งหมายความว่า ที่ดิน 1 เฮกตาร์ที่ทำ Agrivoltaics สามารถให้ผลผลิตรวม (ทั้งเกษตรและไฟฟ้า) เทียบเท่ากับการใช้ที่ดิน 1.86 เฮกตาร์หากแยกกันทำ นี่คือการปลดล็อกศักยภาพของที่ดินอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ผลผลิตทางการเกษตร: ในช่วงฤดูร้อนปี 2018 ที่ร้อนและแห้งแล้งผิดปกติของยุโรป ร่มเงาจากแผงโซลาร์ได้สร้างประโยชน์อย่างน่าทึ่ง:
มันฝรั่ง: ผลผลิตเพิ่มขึ้น +11%
คึ่นช่าย: ผลผลิตเพิ่มขึ้น +12%
ข้าวสาลี: ผลผลิตลดลง -19%
หญ้าโคลเวอร์: ผลผลิตลดลง -5.3%
บทสรุปของผลผลิต: ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่า Agrivoltaics ให้ประโยชน์สูงสุดกับ "พืชที่ทนร่มเงาได้ดี (Shade-tolerant crops)" ในขณะที่พืชที่ต้องการแสงเข้มข้นตลอดวันอาจต้องใช้การออกแบบระบบที่แตกต่างออกไป
บทที่ 2: The Science Behind the Synergy - ศาสตร์เบื้องหลังคุณค่าร่วม
ทำไมการมีร่มเงาจึงอาจดีกว่าการมีแสงแดด 100%? คำตอบอยู่ในหลักการทางชีววิทยาและฟิสิกส์
การปรับเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศจุลภาค (Microclimate Modification): แผงโซลาร์ช่วยลดรังสีดวงอาทิตย์ที่ส่องถึงพื้นดินโดยตรงประมาณ 30% ส่งผลให้:
อุณหภูมิดินลดลง: ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและปกป้องรากพืช
ลดการคายน้ำของพืช: ช่วยลดค่า "Vapor Pressure Deficit (VPD)" ซึ่งคือความแตกต่างของแรงดันไอน้ำระหว่างในใบพืชและในอากาศ เมื่อ VPD ต่ำลง ปากใบ (stomata) ของพืชจะสามารถเปิดรับคาร์บอนไดออกไซด์ได้นานขึ้นโดยสูญเสียน้ำน้อยลง ทำให้กระบวนการสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสภาพอากาศร้อนจัด
รังสีที่ใช้ในการสังเคราะห์แสง (Photosynthetically Active Radiation - PAR): สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ "ปริมาณ" แสง แต่คือ "คุณภาพ" ของแสง ระบบ Agrivoltaics ที่ดีจะถูกออกแบบมาให้กรองแสงบางส่วนออกไป แต่ยังคงปล่อยให้ "รังสีในช่วงคลื่นที่พืชใช้สังเคราะห์แสง (PAR)" ผ่านลงไปได้อย่างเพียงพอ ซึ่งให้ผลดีอย่างยิ่งกับ พืช C3 (เช่น ผักสลัด, มันฝรั่ง, สมุนไพร) ซึ่งมีจุดอิ่มตัวของแสงต่ำกว่า พืช C4 (เช่น ข้าวโพด, อ้อย)
บทที่ 3: Financial Modeling - การวิเคราะห์ความคุ้มค่าเชิงพาณิชย์
โมเดล LUE ที่ 186% สามารถแปลกลับมาเป็นโมเดลทางการเงินที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
กระแสรายได้สองทาง (Dual Revenue Streams):
รายได้จากการเกษตร: แม้ผลผลิตอาจลดลงบ้างในพืชบางชนิด แต่การที่สามารถเพาะปลูก "พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง" ที่ปกติแล้วอาจทนสภาพอากาศร้อนจัดไม่ไหว จะช่วยเพิ่มรายได้รวมได้อย่างมีนัยสำคัญ
รายได้จากพลังงาน: จากการประหยัดค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย หรือการขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้ระบบ ซึ่งเป็นกระแสรายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้
การลดต้นทุนดำเนินงาน (OPEX Reduction):
ค่าน้ำ: การลดการระเหยของน้ำ ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในการสูบน้ำบาดาลได้อย่างมาก
ค่าประกันความเสี่ยง: โครงสร้างแผงช่วยลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุลูกเห็บ
ข้อมูลอ้างอิง: แบบจำลองทางการเงินจาก ธนาคารโลก (World Bank) เกี่ยวกับการลงทุนใน Agri-Tech แสดงให้เห็นว่า โครงการที่มีกระแสรายได้หลากหลายและช่วยลดความเสี่ยงเช่นนี้ สามารถสร้างอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ได้สูงเกิน 20-25%
บทที่ 4: From Germany to Isan - บทเรียนและการประยุกต์ใช้ในประเทศไทย
การเลือกชนิดพืชสำหรับภาคอีสาน: หลักการจาก Fraunhofer ISE สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยตรงกับพืชเศรษฐกิจของไทย เช่น พริก, ข่า, ตะไคร้, กะเพรา, โหระพา, และพืชสมุนไพรต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นพืชที่ได้รับประโยชน์จากการลดความเครียดจากความร้อน
การออกแบบสำหรับสภาพอากาศมรสุม: โครงสร้างต้องได้รับการออกแบบโดยทีมวิศวกรโยธาที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถทนทานต่อแรงลมพายุในฤดูมรสุมได้ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักด้าน การก่อสร้าง ของเรา
โมเดลเศรษฐกิจ BCG: Agrivoltaics คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศไทย เพราะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคเกษตรกรรม (Bio), ใช้ทรัพยากรที่ดินหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (Circular), และใช้พลังงานสะอาด (Green)
บทสรุป: จากงานวิจัยระดับโลก สู่การปฏิบัติจริงในไร่นาของคุณ
งานวิจัยจากสถาบัน Fraunhofer ISE ได้เปลี่ยนสถานะของ Agrivoltaics จาก "แนวคิดทดลอง" ไปสู่ "โซลูชันที่พิสูจน์แล้ว" ที่ให้ประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์และนิเวศวิทยา
ที่ บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง เราไม่ได้แค่นำเสนอเทคโนโลยี แต่เรานำองค์ความรู้ระดับโลกมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทในท้องถิ่น ความเชี่ยวชาญที่ครบวงจรของเราทั้งด้าน โซลาร์เซลล์, วิศวกรรมโครงสร้าง, และระบบควบคุมอัจฉริยะ ทำให้เราเป็นพันธมิตรเพียงไม่กี่รายในประเทศที่พร้อมจะนำแนวคิด Agrivoltaics ขั้นสูงนี้มาสร้างให้เกิดขึ้นจริงและประสบความสำเร็จบนผืนดินของภาคอีสาน
ปรึกษาการสร้างฟาร์มอัจฉริยะที่อ้างอิงจากงานวิจัยที่ดีที่สุดในโลกกับเรา
โทร: 045-905-215, 097-051-5871
เว็บไซต์: www.supsaringkan.com
LINE: @760fgpmx
แหล่งที่มาและอ้างอิง (Sources and References):
Fraunhofer Institute for Solar Energy Systems (ISE), "APV-RESOLA Project" Final Report & related publications.
Journal of Cleaner Production, "Microclimate and crop production in agrivoltaic systems".
World Bank Group, "Agri-Tech Investment & The Future of Farming" Reports.
Thailand's Bio-Circular-Green (BCG) Economy Model.
บทนำ:
ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายแฝด ทั้งความมั่นคงทางพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ความขัดแย้งในการใช้ที่ดินระหว่างภาคเกษตรกรรม (Food) และภาคพลังงาน (Energy) ก็ทวีความรุนแรงขึ้น สถาบัน Fraunhofer เพื่อระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Fraunhofer ISE) ในเยอรมนี ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านโซลาร์เซลล์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้นำเสนอทางออกที่สง่างามและทรงประสิทธิภาพสำหรับปัญหานี้ ผ่านแนวคิดที่เรียกว่า "Agrivoltaics" (APV)
บทวิเคราะห์เชิงลึกฉบับนี้ จะพาไปสำรวจผลการวิจัยจากโครงการนำร่องที่สำคัญที่สุดของพวกเขา, เจาะลึกหลักการทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความสำเร็จ, วิเคราะห์โมเดลทางการเงิน, และถอดบทเรียนสู่การประยุกต์ใช้จริงในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย
บทที่ 1: The APV-RESOLA Project - กรณีศึกษาปฏิวัติโลกจากเฮ็กเกลบัค
โครงการวิจัยนำร่อง "APV-RESOLA" ซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2016 ณ ฟาร์มในเมืองเฮ็กเกลบัค คือรากฐานเชิงประจักษ์ที่พิสูจน์แนวคิด Agrivoltaics
ข้อกำหนดทางวิศวกรรม (Technical Specifications): โครงการประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ชนิดสองหน้า (Bifacial) จำนวน 720 แผง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 245 กิโลวัตต์พีค (kWp) ถูกติดตั้งบนโครงสร้างเหล็กยกสูง 5 เมตร โดยเว้นระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 8 เมตร เพื่อให้แสงกระจายตัวลงสู่พื้นดินได้อย่างเหมาะสมและอนุญาตให้เครื่องจักรกลเกษตรขนาดมาตรฐานทำงานได้
ผลการวิจัยเชิงปริมาณ:
ประสิทธิภาพการใช้ที่ดิน (Land Use Efficiency - LUE): ตัวชี้วัดนี้คือหัวใจของความสำเร็จ โครงการ APV-RESOLA สามารถทำค่า LUE ได้สูงถึง 186% ซึ่งหมายความว่า ที่ดิน 1 เฮกตาร์ที่ทำ Agrivoltaics สามารถให้ผลผลิตรวม (ทั้งเกษตรและไฟฟ้า) เทียบเท่ากับการใช้ที่ดิน 1.86 เฮกตาร์หากแยกกันทำ นี่คือการปลดล็อกศักยภาพของที่ดินอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ผลผลิตทางการเกษตร: ในช่วงฤดูร้อนปี 2018 ที่ร้อนและแห้งแล้งผิดปกติของยุโรป ร่มเงาจากแผงโซลาร์ได้สร้างประโยชน์อย่างน่าทึ่ง:
มันฝรั่ง: ผลผลิตเพิ่มขึ้น +11%
คึ่นช่าย: ผลผลิตเพิ่มขึ้น +12%
ข้าวสาลี: ผลผลิตลดลง -19%
หญ้าโคลเวอร์: ผลผลิตลดลง -5.3%
บทสรุปของผลผลิต: ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่า Agrivoltaics ให้ประโยชน์สูงสุดกับ "พืชที่ทนร่มเงาได้ดี (Shade-tolerant crops)" ในขณะที่พืชที่ต้องการแสงเข้มข้นตลอดวันอาจต้องใช้การออกแบบระบบที่แตกต่างออกไป
บทที่ 2: The Science Behind the Synergy - ศาสตร์เบื้องหลังคุณค่าร่วม
ทำไมการมีร่มเงาจึงอาจดีกว่าการมีแสงแดด 100%? คำตอบอยู่ในหลักการทางชีววิทยาและฟิสิกส์
การปรับเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศจุลภาค (Microclimate Modification): แผงโซลาร์ช่วยลดรังสีดวงอาทิตย์ที่ส่องถึงพื้นดินโดยตรงประมาณ 30% ส่งผลให้:
อุณหภูมิดินลดลง: ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและปกป้องรากพืช
ลดการคายน้ำของพืช: ช่วยลดค่า "Vapor Pressure Deficit (VPD)" ซึ่งคือความแตกต่างของแรงดันไอน้ำระหว่างในใบพืชและในอากาศ เมื่อ VPD ต่ำลง ปากใบ (stomata) ของพืชจะสามารถเปิดรับคาร์บอนไดออกไซด์ได้นานขึ้นโดยสูญเสียน้ำน้อยลง ทำให้กระบวนการสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสภาพอากาศร้อนจัด
รังสีที่ใช้ในการสังเคราะห์แสง (Photosynthetically Active Radiation - PAR): สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ "ปริมาณ" แสง แต่คือ "คุณภาพ" ของแสง ระบบ Agrivoltaics ที่ดีจะถูกออกแบบมาให้กรองแสงบางส่วนออกไป แต่ยังคงปล่อยให้ "รังสีในช่วงคลื่นที่พืชใช้สังเคราะห์แสง (PAR)" ผ่านลงไปได้อย่างเพียงพอ ซึ่งให้ผลดีอย่างยิ่งกับ พืช C3 (เช่น ผักสลัด, มันฝรั่ง, สมุนไพร) ซึ่งมีจุดอิ่มตัวของแสงต่ำกว่า พืช C4 (เช่น ข้าวโพด, อ้อย)
บทที่ 3: Financial Modeling - การวิเคราะห์ความคุ้มค่าเชิงพาณิชย์
โมเดล LUE ที่ 186% สามารถแปลกลับมาเป็นโมเดลทางการเงินที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
กระแสรายได้สองทาง (Dual Revenue Streams):
รายได้จากการเกษตร: แม้ผลผลิตอาจลดลงบ้างในพืชบางชนิด แต่การที่สามารถเพาะปลูก "พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง" ที่ปกติแล้วอาจทนสภาพอากาศร้อนจัดไม่ไหว จะช่วยเพิ่มรายได้รวมได้อย่างมีนัยสำคัญ
รายได้จากพลังงาน: จากการประหยัดค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย หรือการขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้ระบบ ซึ่งเป็นกระแสรายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้
การลดต้นทุนดำเนินงาน (OPEX Reduction):
ค่าน้ำ: การลดการระเหยของน้ำ ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในการสูบน้ำบาดาลได้อย่างมาก
ค่าประกันความเสี่ยง: โครงสร้างแผงช่วยลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุลูกเห็บ
ข้อมูลอ้างอิง: แบบจำลองทางการเงินจาก ธนาคารโลก (World Bank) เกี่ยวกับการลงทุนใน Agri-Tech แสดงให้เห็นว่า โครงการที่มีกระแสรายได้หลากหลายและช่วยลดความเสี่ยงเช่นนี้ สามารถสร้างอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ได้สูงเกิน 20-25%
บทที่ 4: From Germany to Isan - บทเรียนและการประยุกต์ใช้ในประเทศไทย
การเลือกชนิดพืชสำหรับภาคอีสาน: หลักการจาก Fraunhofer ISE สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยตรงกับพืชเศรษฐกิจของไทย เช่น พริก, ข่า, ตะไคร้, กะเพรา, โหระพา, และพืชสมุนไพรต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นพืชที่ได้รับประโยชน์จากการลดความเครียดจากความร้อน
การออกแบบสำหรับสภาพอากาศมรสุม: โครงสร้างต้องได้รับการออกแบบโดยทีมวิศวกรโยธาที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถทนทานต่อแรงลมพายุในฤดูมรสุมได้ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักด้าน การก่อสร้าง ของเรา
โมเดลเศรษฐกิจ BCG: Agrivoltaics คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศไทย เพราะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคเกษตรกรรม (Bio), ใช้ทรัพยากรที่ดินหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (Circular), และใช้พลังงานสะอาด (Green)
บทสรุป: จากงานวิจัยระดับโลก สู่การปฏิบัติจริงในไร่นาของคุณ
งานวิจัยจากสถาบัน Fraunhofer ISE ได้เปลี่ยนสถานะของ Agrivoltaics จาก "แนวคิดทดลอง" ไปสู่ "โซลูชันที่พิสูจน์แล้ว" ที่ให้ประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์และนิเวศวิทยา
ที่ บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง เราไม่ได้แค่นำเสนอเทคโนโลยี แต่เรานำองค์ความรู้ระดับโลกมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทในท้องถิ่น ความเชี่ยวชาญที่ครบวงจรของเราทั้งด้าน โซลาร์เซลล์, วิศวกรรมโครงสร้าง, และระบบควบคุมอัจฉริยะ ทำให้เราเป็นพันธมิตรเพียงไม่กี่รายในประเทศที่พร้อมจะนำแนวคิด Agrivoltaics ขั้นสูงนี้มาสร้างให้เกิดขึ้นจริงและประสบความสำเร็จบนผืนดินของภาคอีสาน
ปรึกษาการสร้างฟาร์มอัจฉริยะที่อ้างอิงจากงานวิจัยที่ดีที่สุดในโลกกับเรา
โทร: 045-905-215, 097-051-5871
เว็บไซต์: www.supsaringkan.com
LINE: @760fgpmx
แหล่งที่มาและอ้างอิง (Sources and References):
Fraunhofer Institute for Solar Energy Systems (ISE), "APV-RESOLA Project" Final Report & related publications.
Journal of Cleaner Production, "Microclimate and crop production in agrivoltaic systems".
World Bank Group, "Agri-Tech Investment & The Future of Farming" Reports.
Thailand's Bio-Circular-Green (BCG) Economy Model.
บทความที่เกี่ยวข้อง
สนใจแบตเตอรี่ Dyness แต่ไม่รู้ต้องใช้กี่ลูก? คุ้มค่าหรือไม่? คู่มือนี้จะสอนวิธีคำนวณขนาดแบตเตอรี่ที่เหมาะสมจากการใช้ไฟตอนกลางคืน และวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุน (ROI) จากการประหยัดค่าไฟและประโยชน์ด้านไฟสำรอง
5 ส.ค. 2025
เจาะลึกแบตเตอรี่โซลาร์เซลล์แบรนด์ Dyness ว่าทำไมถึงเป็นที่ไว้วางใจของผู้ติดตั้งทั่วโลก บทวิเคราะห์เทคโนโลยี LFP ที่ปลอดภัย, การทำงานของระบบ BMS, พร้อมแนะนำรุ่นยอดนิยมอย่าง BX51100 และ Tower Series
5 ส.ค. 2025
ยกระดับความรู้ของคุณไปอีกขั้น! บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเจ้าของระบบโซลาร์เซลล์ ที่เจาะลึกในสิ่งที่หาอ่านไม่ได้ทั่วไป ตั้งแต่ศาสตร์แห่งการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเพื่อยืดอายุการใช้งาน, เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพระบบด้วยดัชนี Performance Ratio (PR), ไปจนถึงการวิเคราะห์เทคโนโลยีแห่งอนาคตเช่น Tandem Cells และ Agrivoltaics อย่างมีหลักการ อ่านจบเพื่อปลดล็อกศักยภาพการลงทุนของคุณอย่างแท้จริง
3 ส.ค. 2025