Microinverter vs. String Inverter: ศึกตัดสินอินเวอร์เตอร์ ระบบไหนเหมาะกับบ้านของคุณที่สุด?
อัพเดทล่าสุด: 8 ต.ค. 2025
75 ผู้เข้าชม

ก่อนจะเปรียบเทียบ เรามาทำความรู้จักหลักการทำงานของอินเวอร์เตอร์ทั้งสองชนิดกันก่อน
String Inverter (สตริงอินเวอร์เตอร์): เป็นระบบที่นำแผงโซล่าเซลล์หลายๆ แผงมาต่ออนุกรมกันเป็นสายยาว (String) แล้วส่งไฟฟ้า DC แรงดันสูงมายังอินเวอร์เตอร์ "กล่องใหญ่" เพียงตัวเดียวที่ติดตั้งอยู่บนผนังเพื่อแปลงเป็นไฟ AC เปรียบเสมือน "ไฟคริสต์มาสแบบเก่า" ที่ถ้าหลอดใดหลอดหนึ่งเสีย หลอดที่เหลือทั้งสายก็จะดับไปด้วย
Microinverter (ไมโครอินเวอร์เตอร์): เป็นระบบที่ติดตั้งอินเวอร์เตอร์ "ขนาดเล็ก" ไว้ที่ใต้แผงโซล่าเซลล์แต่ละใบ (หรือทุกๆ 2-4 ใบ) ทำการแปลงไฟ DC เป็น AC ที่บนหลังคาโดยตรง แล้วค่อยรวบรวมไฟ AC ส่งลงมาที่ตู้ไฟ เปรียบเสมือน "หลอดไฟแยกวงจร" ที่หลอดไหนเสีย หลอดอื่นก็ยังทำงานได้ปกติ
เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด: 5 เกณฑ์ตัดสิน
1. ประสิทธิภาพเมื่อมีเงาบัง (Performance in Shade)
Microinverter (ผู้ชนะ ): เหนือกว่าอย่างชัดเจน เนื่องจากแผงแต่ละใบทำงานแยกจากกันโดยสมบูรณ์ แผงที่โดนเงาจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผงอื่น ทำให้ระบบโดยรวมยังคงผลิตไฟฟ้าได้เกือบเต็มที่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเงาจากต้นไม้, อาคารข้างเคียง, หรือมีหลังคาซับซ้อน
String Inverter: เป็นรอง หากมีแผงใดแผงหนึ่งในสตริงโดนเงา ประสิทธิภาพของแผง "ทั้งหมด" ในสตริงนั้นจะลดลงตามไปด้วย (แม้ว่าเทคโนโลยี Optimizer จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
2. ความปลอดภัย (Safety)
Microinverter (ผู้ชนะ ): ปลอดภัยสูงสุด เพราะทำการแปลงเป็นไฟฟ้า AC 220V ที่ปลอดภัยบนหลังคาโดยตรง ทำให้สายไฟที่เดินในท่อลงมาเป็นไฟฟ้า AC ทั้งหมด ช่วยขจัดความเสี่ยงจากไฟฟ้า DC แรงดันสูง (600-1000V) และการเกิดประกายไฟ DC Arc ซึ่งเป็นสาเหตุของอัคคีภัย
String Inverter: ปลอดภัยตามมาตรฐาน แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากสายไฟ DC แรงดันสูงที่เดินจากหลังคามายังตัวอินเวอร์เตอร์ จำเป็นต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันและท่อร้อยสายที่มีคุณภาพสูง
3. การตรวจสอบข้อมูล (Monitoring)
Microinverter (ผู้ชนะ ): สามารถดูข้อมูลการผลิตไฟฟ้าของ "แผงทุกใบ" แยกกันได้อย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์และค้นหาแผงที่มีปัญหา
String Inverter: โดยทั่วไปจะแสดงข้อมูลภาพรวมของ "แต่ละสตริง" ไม่สามารถดูข้อมูลรายแผงได้ (ยกเว้นติดตั้ง Optimizer เพิ่ม)
4. การลงทุนเริ่มต้น (Upfront Cost)
String Inverter (ผู้ชนะ ): มีราคาต่อวัตต์ที่ต่ำกว่า ทำให้ต้นทุนเริ่มต้นของระบบถูกกว่าอย่างชัดเจน เป็นตัวเลือกที่ให้ความคุ้มค่าและคืนทุนเร็วที่สุดสำหรับหลังคาที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงาบัง
Microinverter: มีราคาสูงกว่า เนื่องจากต้องใช้อินเวอร์เตอร์จำนวนมากตามจำนวนแผง
5. การบำรุงรักษา (Maintenance)
String Inverter (ผู้ชนะ ): บำรุงรักษาง่ายกว่ามาก หากอินเวอร์เตอร์มีปัญหา ช่างสามารถตรวจสอบหรือเปลี่ยนได้ง่ายจากกล่องที่ติดตั้งอยู่บนผนัง
Microinverter: มีความซับซ้อนกว่า หากมีไมโครอินเวอร์เตอร์ตัวใดตัวหนึ่งเสีย ช่างจำเป็นต้องขึ้นไปบนหลังคาและรื้อแผงโซล่าเซลล์ออกเพื่อทำการเปลี่ยน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายด้านแรงงานสูงกว่า
สรุป: ระบบไหนเหมาะกับบ้านของคุณ?
เลือก String Inverter ถ้า...
หลังคาของคุณโล่ง ไม่มีเงาบดบังตลอดทั้งวัน
คุณให้ความสำคัญกับ "ความคุ้มค่า" และต้องการ "ระยะเวลาคืนทุนที่รวดเร็วที่สุด"
คุณต้องการระบบที่บำรุงรักษาง่ายในระยะยาว
เลือก Microinverter ถ้า...
หลังคาของคุณมี "ปัญหาเงาบัง" หรือมี "หลายทิศทาง"
คุณให้ความสำคัญกับ "ความปลอดภัยสูงสุด" และต้องการหลีกเลี่ยงสายไฟ DC แรงดันสูง
คุณเป็นคนชอบเทคโนโลยีและต้องการ "ดูข้อมูลรายแผง" เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด
ที่ SKE Engineering เรามีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและติดตั้งทั้งสองระบบ เราสามารถให้คำแนะนำที่เป็นกลางและช่วยคุณเลือกระบบที่เหมาะสมกับลักษณะหลังคา, งบประมาณ, และความต้องการของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด
ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน
String Inverter (สตริงอินเวอร์เตอร์): เป็นระบบที่นำแผงโซล่าเซลล์หลายๆ แผงมาต่ออนุกรมกันเป็นสายยาว (String) แล้วส่งไฟฟ้า DC แรงดันสูงมายังอินเวอร์เตอร์ "กล่องใหญ่" เพียงตัวเดียวที่ติดตั้งอยู่บนผนังเพื่อแปลงเป็นไฟ AC เปรียบเสมือน "ไฟคริสต์มาสแบบเก่า" ที่ถ้าหลอดใดหลอดหนึ่งเสีย หลอดที่เหลือทั้งสายก็จะดับไปด้วย
Microinverter (ไมโครอินเวอร์เตอร์): เป็นระบบที่ติดตั้งอินเวอร์เตอร์ "ขนาดเล็ก" ไว้ที่ใต้แผงโซล่าเซลล์แต่ละใบ (หรือทุกๆ 2-4 ใบ) ทำการแปลงไฟ DC เป็น AC ที่บนหลังคาโดยตรง แล้วค่อยรวบรวมไฟ AC ส่งลงมาที่ตู้ไฟ เปรียบเสมือน "หลอดไฟแยกวงจร" ที่หลอดไหนเสีย หลอดอื่นก็ยังทำงานได้ปกติ
เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด: 5 เกณฑ์ตัดสิน
1. ประสิทธิภาพเมื่อมีเงาบัง (Performance in Shade)
Microinverter (ผู้ชนะ ): เหนือกว่าอย่างชัดเจน เนื่องจากแผงแต่ละใบทำงานแยกจากกันโดยสมบูรณ์ แผงที่โดนเงาจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผงอื่น ทำให้ระบบโดยรวมยังคงผลิตไฟฟ้าได้เกือบเต็มที่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเงาจากต้นไม้, อาคารข้างเคียง, หรือมีหลังคาซับซ้อน
String Inverter: เป็นรอง หากมีแผงใดแผงหนึ่งในสตริงโดนเงา ประสิทธิภาพของแผง "ทั้งหมด" ในสตริงนั้นจะลดลงตามไปด้วย (แม้ว่าเทคโนโลยี Optimizer จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
2. ความปลอดภัย (Safety)
Microinverter (ผู้ชนะ ): ปลอดภัยสูงสุด เพราะทำการแปลงเป็นไฟฟ้า AC 220V ที่ปลอดภัยบนหลังคาโดยตรง ทำให้สายไฟที่เดินในท่อลงมาเป็นไฟฟ้า AC ทั้งหมด ช่วยขจัดความเสี่ยงจากไฟฟ้า DC แรงดันสูง (600-1000V) และการเกิดประกายไฟ DC Arc ซึ่งเป็นสาเหตุของอัคคีภัย
String Inverter: ปลอดภัยตามมาตรฐาน แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากสายไฟ DC แรงดันสูงที่เดินจากหลังคามายังตัวอินเวอร์เตอร์ จำเป็นต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันและท่อร้อยสายที่มีคุณภาพสูง
3. การตรวจสอบข้อมูล (Monitoring)
Microinverter (ผู้ชนะ ): สามารถดูข้อมูลการผลิตไฟฟ้าของ "แผงทุกใบ" แยกกันได้อย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์และค้นหาแผงที่มีปัญหา
String Inverter: โดยทั่วไปจะแสดงข้อมูลภาพรวมของ "แต่ละสตริง" ไม่สามารถดูข้อมูลรายแผงได้ (ยกเว้นติดตั้ง Optimizer เพิ่ม)
4. การลงทุนเริ่มต้น (Upfront Cost)
String Inverter (ผู้ชนะ ): มีราคาต่อวัตต์ที่ต่ำกว่า ทำให้ต้นทุนเริ่มต้นของระบบถูกกว่าอย่างชัดเจน เป็นตัวเลือกที่ให้ความคุ้มค่าและคืนทุนเร็วที่สุดสำหรับหลังคาที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงาบัง
Microinverter: มีราคาสูงกว่า เนื่องจากต้องใช้อินเวอร์เตอร์จำนวนมากตามจำนวนแผง
5. การบำรุงรักษา (Maintenance)
String Inverter (ผู้ชนะ ): บำรุงรักษาง่ายกว่ามาก หากอินเวอร์เตอร์มีปัญหา ช่างสามารถตรวจสอบหรือเปลี่ยนได้ง่ายจากกล่องที่ติดตั้งอยู่บนผนัง
Microinverter: มีความซับซ้อนกว่า หากมีไมโครอินเวอร์เตอร์ตัวใดตัวหนึ่งเสีย ช่างจำเป็นต้องขึ้นไปบนหลังคาและรื้อแผงโซล่าเซลล์ออกเพื่อทำการเปลี่ยน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายด้านแรงงานสูงกว่า
สรุป: ระบบไหนเหมาะกับบ้านของคุณ?
เลือก String Inverter ถ้า...
หลังคาของคุณโล่ง ไม่มีเงาบดบังตลอดทั้งวัน
คุณให้ความสำคัญกับ "ความคุ้มค่า" และต้องการ "ระยะเวลาคืนทุนที่รวดเร็วที่สุด"
คุณต้องการระบบที่บำรุงรักษาง่ายในระยะยาว
เลือก Microinverter ถ้า...
หลังคาของคุณมี "ปัญหาเงาบัง" หรือมี "หลายทิศทาง"
คุณให้ความสำคัญกับ "ความปลอดภัยสูงสุด" และต้องการหลีกเลี่ยงสายไฟ DC แรงดันสูง
คุณเป็นคนชอบเทคโนโลยีและต้องการ "ดูข้อมูลรายแผง" เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด
ที่ SKE Engineering เรามีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและติดตั้งทั้งสองระบบ เราสามารถให้คำแนะนำที่เป็นกลางและช่วยคุณเลือกระบบที่เหมาะสมกับลักษณะหลังคา, งบประมาณ, และความต้องการของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด
ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน
บทความที่เกี่ยวข้อง
กลัวเจอของปลอม? เรียนรู้วิธีตรวจสอบ Sungrow Optimizer ของแท้ด้วยตัวเองผ่าน iSolarCloud และรายชื่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Authorized Distributor) ในไทย เพื่อสิทธิ์การรับประกัน 25 ปีเต็ม
รู้ลึกเรื่องความยาวสาย Optimizer รุ่น Long Cable (SP600S/SP1400D) ยาวกี่เมตร? วิธีเช็คระยะติดตั้งแผงแนวตั้ง vs แนวนอน และเทคนิค Leapfrog เพื่อไม่ให้พลาดหน้างาน
หลายคนเข้าใจผิดว่า Rapid Shutdown มีไว้แก้เงาบัง... บทความนี้จะไขความจริงว่าทำไมบ้านโล่งๆ ก็ "ต้อง" ติด RSD เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินตามมาตรฐาน วสท. และ NEC
Miss Kaewthip



