Bankability 100% ตลอด 5 ปีซ้อน: เหตุผลที่ธนาคารไทย 'อนุมัติ' โครงการโซล่าเซลล์ Sungrow
Bankability 100% ตลอด 5 ปีซ้อน: เหตุผลที่ธนาคารไทย 'อนุมัติ' โครงการโซล่าเซลล์ Sungrow
สำหรับโครงการโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ (Commercial & Industrial) คำที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ "ประสิทธิภาพสูงสุด" หรือ "ราคาถูกสุด" แต่คือคำว่า "Bankability" (ความน่าเชื่อถือทางการเงิน) เพราะมันคือ "กุญแจ" ที่จะปลดล็อกการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร
ธนาคารไม่ได้ให้กู้ยืมเงินโดยดูจากสเปกบนแผ่นกระดาษ แต่พวกเขาประเมิน "ความเสี่ยง" ตลอดอายุโครงการ 25 ปี และอินเวอร์เตอร์คือ "หัวใจ" ของโครงการที่แบกรับความเสี่ยงนั้นไว้ทั้งหมด
แล้วธนาคารใช้อะไรวัดความเสี่ยง? และทำไม Sungrow ถึงเป็น "ตัวเลือกอันดับหนึ่ง" ที่ธนาคารไทยและทั่วโลก "อนุมัติ" โครงการให้ง่ายที่สุด? SKE จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังคำว่า Bankability ครับ
1. "Bankability" คืออะไร? (ในมุมมองของธนาคาร)
Bankability ไม่ใช่ศัพท์เทคนิคทางวิศวกรรม แต่เป็นศัพท์ "การเงิน" ที่หมายถึง "ระดับความน่าเชื่อถือของโครงการในสายตาของผู้ให้สินเชื่อ (ธนาคาร)"
เมื่อธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้โครงการโซลาร์เซลล์ พวกเขาไม่ได้มองว่าคุณกำลัง "ซื้ออินเวอร์เตอร์" แต่มองว่าคุณกำลัง "สร้างโรงไฟฟ้า" ที่ต้อง "ผลิตกระแสเงินสด" (จากการประหยัดค่าไฟ) เพื่อมา "จ่ายคืนหนี้" ธนาคาร ตลอด 10-25 ปี
คำถามหลักของธนาคารคือ:
- เทคโนโลยี (Inverter) จะพังหรือไม่? ถ้าพัง ใครซ่อม? นานแค่ไหน?
- บริษัทผู้ผลิต (Manufacturer) จะล้มละลายหรือไม่? ถ้าบริษัทเจ๊งใน 5 ปี ใครจะรับประกัน (Warranty) ที่เหลืออีก 20 ปี?
อินเวอร์เตอร์ที่เป็น "Bankable" คืออินเวอร์เตอร์ที่ตอบ 2 คำถามนี้ได้ชัดเจนที่สุดว่า: "เทคโนโลยีเสถียร" และ "บริษัทมั่นคง" ซึ่งจะทำให้โครงการมีความเสี่ยงต่ำ และธนาคารกล้าอนุมัติเงินกู้แบบ Non-Recourse (สินเชื่อที่อ้างอิงกับตัวโครงการเอง) ให้
2. The Gold Standard: "BloombergNEF (BNEF)"
ธนาคารทั่วโลก (รวมถึงธนาคารไทย) ไม่ได้สุ่มประเมินความเสี่ยงเอง พวกเขาใช้ข้อมูลอ้างอิงจากสถาบันวิจัยด้านพลังงานที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก นั่นคือ BloombergNEF (BNEF)
ทุกปี BNEF จะทำรายงาน "Inverter Bankability Report" ซึ่งไม่ได้ทดสอบอินเวอร์เตอร์ในห้องแล็บ แต่ใช้วิธี "สัมภาษณ์" และ "สำรวจ" ธนาคาร, ผู้ให้สินเชื่อ, บริษัทพัฒนาโครงการ (Developers), และบริษัท EPC ขนาดใหญ่ทั่วโลกที่ติดตั้งไปแล้วหลายพันเมกะวัตต์
คำถามที่ BNEF ถามคือ: "อินเวอร์เตอร์ยี่ห้อใด ที่คุณ 'ยินดี' ที่จะให้สินเชื่อ (Finance) โดยไม่ลังเล?"
ผลลัพธ์คือ: Sungrow ถูกจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่ "Bankable 100%" ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน (2019-2023) และยังคงรักษาสถิตินี้ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
Bankable 100% หมายความว่า "ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 100%" (ซึ่งคือธนาคารและนักลงทุน) ลงความเห็นว่า "มั่นใจ" ในการให้สินเชื่อกับโครงการที่ใช้ Sungrow โดยไม่มีข้อโต้แย้ง นี่คือคะแนนที่สูงที่สุดและยากที่สุดที่จะรักษาไว้
3. 3 เหตุผลหลักที่ธนาคาร "เชื่อมั่น" ใน Sungrow (จนกล้าอนุมัติ)
การที่ Sungrow ได้รับความไว้วางใจ 100% ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจาก 3 เสาหลักที่ธนาคารใช้ประเมินอย่างเข้มงวด:
3.1) ความมั่นคงทางการเงินของบริษัท (Financial Stability)
การรับประกัน 10, 15 หรือ 25 ปี จะไร้ความหมายทันที หากบริษัทผู้ผลิตล้มละลายไปก่อน ธนาคารจึงตรวจสอบ "งบดุล" (Balance Sheet) ของผู้ผลิตอย่างหนัก
- Sungrow: เป็นบริษัทมหาชน (Publicly Traded Company) ที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่งมหาศาล มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt-to-Equity Ratio) ที่ต่ำ และมีผลกำไรเติบโตต่อเนื่อง
- BNEF Report: ใช้โมเดลการเงินอย่าง Altman Z-Score เพื่อประเมินความเสี่ยงล้มละลาย ซึ่ง Sungrow ผ่านเกณฑ์ "ความเสี่ยงต่ำ" (Safe Zone) มาโดยตลอด
ในมุมมองธนาคาร: การเลือก Sungrow คือการเลือกบริษัท "ยักษ์ใหญ่" ที่จะอยู่รอดและรับผิดชอบการรับประกันไปได้ตลอด 25 ปี ความเสี่ยงที่โครงการจะ "เจ๊ง" เพราะผู้ผลิตปิดตัวจึงแทบเป็นศูนย์
3.2) ประสิทธิภาพและสถิติที่พิสูจน์แล้ว (Proven Performance & Low Failure Rate)
ธนาคารไม่เชื่อ "สเปกในกระดาษ" แต่เชื่อ "ข้อมูลการผลิตจริง" (Field Data) จากโครงการทั่วโลก
- Sungrow: ด้วยประสบการณ์กว่า 27 ปี และติดตั้งไปแล้วมากกว่า 515 GW ทั่วโลก (ณ สิ้นปี 2023) ทำให้มี "สถิติ" การทำงานจริงที่ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรม
- Low Failure Rate: สถิติอัตราการเสีย (Failure Rate) ของ Sungrow ต่ำมากในระดับอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีอย่าง Smart I-V Curve Diagnosis หรือ AFCI 2.0 ช่วยให้ "จับ" ปัญหาได้ก่อนที่มันจะลุกลาม
ในมุมมองธนาคาร: สถิติพิสูจน์แล้วว่าอินเวอร์เตอร์ Sungrow "อึด ทน" และ "ผลิตไฟได้ตามที่คำนวณไว้" ใน Financial Model หมายความว่า โครงการจะผลิต "กระแสเงินสด" ได้ตามเป้า และมีเงินมาชำระหนี้ธนาคารได้ไม่ขาดตอน
3.3) การสนับสนุนในพื้นที่ (Strong Local Support in Thailand)
นี่คือปัจจัยที่ "สำคัญที่สุด" สำหรับธนาคารในประเทศไทย หากอินเวอร์เตอร์เสีย โครงการจะหยุดผลิตไฟ (รายได้เป็นศูนย์) ถ้าต้องรออะไหล่จากต่างประเทศ 1-2 เดือน โครงการนั้น "ขาดทุน" ทันที
- Sungrow Thailand: Sungrow มีการลงทุนและจัดตั้ง "สำนักงานในประเทศไทย" อย่างเป็นทางการ มีทีมวิศวกรคนไทย (Local Support Team) และมี "คลังอะไหล่" (Local Warehouse) ในประเทศไทย
ในมุมมองธนาคาร: การมี Sungrow Thailand หมายความว่า หากเกิดปัญหา (ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกยี่ห้อ) จะมีทีมงานเข้าแก้ไขและเปลี่ยนอะไหล่ได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง ลดเวลาหยุดเดินเครื่อง (Downtime) ให้เหลือน้อยที่สุด ธนาคารจึง "สบายใจ" ว่ากระแสเงินสดของโครงการจะไม่สะดุดนาน
สรุป: Sungrow ไม่ใช่แค่ "ตัวเลือก" แต่คือ "กลยุทธ์" ทางการเงิน
การเลือก Sungrow สำหรับโครงการของคุณ ไม่ใช่แค่การเลือกเทคโนโลยี แต่คือการเลือก "กลยุทธ์" ที่จะทำให้การขอสินเชื่อจากธนาคาร "ง่ายขึ้น" อย่างมีนัยสำคัญ
เพราะคุณได้กำจัด "ตัวแปรความเสี่ยง" ที่ใหญ่ที่สุด 3 ข้อ ออกไปจากสมการของธนาคารแล้ว:
- ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี (ผ่านสถิติ 27 ปี)
- ความเสี่ยงด้านการรับประกัน (ผ่านความมั่นคงทางการเงินระดับโลก)
- ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน (ผ่าน Local Support ในไทย)
เมื่อรวม Sungrow (เทคโนโลยี Bankable 100%) เข้ากับ SKE (ผู้ติดตั้ง EPC ที่มีประสบการณ์และ Bankable เช่นกัน) โครงการของคุณก็จะกลายเป็น "โครงการเกรด A" ที่ธนาคารพร้อมอนุมัติสินเชื่อให้ทันที
วางแผนการลงทุนโซลาร์เซลล์ที่ 'Bankable' วันนี้ ติดต่อ SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow อย่างเป็นทางการ):
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#Bankability #Sungrow #BNEF #ProjectFinance #SKESolar #การเงินโครงการ #สินเชื่อโซล่าเซลล์ #การลงทุน #โรงงาน