แชร์

Sunk Cost Fallacy: กับดักที่ทำให้เหยื่อ "ยิ่งเสีย ยิ่งโอนเพิ่ม"

IMG_2598.jpeg Miss Kaewthip
อัพเดทล่าสุด: 24 ต.ค. 2025
24 ผู้เข้าชม

"The Sunk Cost Fallacy": กับดักทางจิตวิทยาที่ทำให้เหยื่อ "ยิ่งเสีย ยิ่งโอนเพิ่ม" เพื่อเอาเงินเก่าคืน


เคยสงสัยไหมว่าทำไมคนที่ตกเป็นเหยื่อหลอกลงทุน ถึงโอนเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะสูญเสียไปเป็นหลักแสนหลักล้าน? มันไม่ใช่เพราะพวกเขา "โง่" แต่เพราะพวกเขาติดอยู่ใน "กับดักต้นทุนจม" (Sunk Cost Fallacy) ซึ่งเป็นอคติทางความคิดที่ทรงพลังมาก และ Scammer ก็รู้เรื่องนี้ดี บทความนี้ SKE จะมาถอดรหัสกับดักทางจิตวิทยาสุดอันตรายนี้กัน


Sunk Cost Fallacy (กับดักต้นทุนจม) คืออะไร?

Sunk Cost Fallacy คือ แนวโน้มของมนุษย์ที่จะ "ตัดสินใจทำบางสิ่งต่อไป เพียงเพราะว่าเราได้ลงทุน (ทั้งเงิน, เวลา, หรือความพยายาม) ไปกับสิ่งนั้นแล้ว แม้ว่าการทำต่อไปนั้นจะไม่สมเหตุสมผลหรือสร้างผลขาดทุนมากขึ้นก็ตาม"

พูดง่ายๆ คือ "ความรู้สึกเสียดาย" สิ่งที่ลงไปแล้ว มันมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในอนาคตของเรา มากกว่าการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันตามความเป็นจริง

ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน:

  • การดูหนังที่ไม่สนุก: คุณดูหนังไปแล้ว 1 ชั่วโมง และพบว่ามันน่าเบื่อมาก แต่คุณก็ยัง "ทนดูต่อ" จนจบ เพราะรู้สึก "เสียดายค่าตั๋ว" (ทั้งๆ ที่เวลาอีก 1 ชั่วโมงที่เสียไปก็ไม่ได้อะไรกลับคืนมา)
  • การต่อคิวที่ยาวมาก: คุณต่อคิวรอซื้อของมาแล้ว 30 นาที แม้จะเห็นว่าคิวแทบไม่ขยับและอาจมีร้านอื่นที่ดีกว่า คุณก็ยัง "ทนรอต่อ" เพราะ "อุตส่าห์รอมาตั้งนานแล้ว"

Scammer ใช้ "กับดัก" นี้หลอกเหยื่อได้อย่างไร?

Scammer คือ "ปรมาจารย์" ในการใช้ Sunk Cost Fallacy พวกเขาสร้างสถานการณ์ที่ซับซ้อนเพื่อผูกมัดเหยื่อทางอารมณ์และทางการเงินทีละขั้นตอน:

ขั้นตอนที่ 1: สร้าง "ต้นทุนจม" ก้อนแรก (The Initial Investment)

ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลงทุน (Investment Scam) หรือการหลอกทำงาน (Job Scam) Scammer จะเริ่มต้นด้วยการให้เหยื่อ "ลงทุน" หรือ "โอนเงิน" ก้อนแรกก่อน ซึ่งอาจจะเป็นจำนวนไม่มากนัก (เช่น 500 หรือ 1,000 บาท)

ผลทางจิตวิทยา: เมื่อเหยื่อโอนเงินก้อนแรกไปแล้ว พวกเขาไม่ใช่แค่ "คนนอก" อีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น "นักลงทุน" ในเกมนี้แล้ว เงินก้อนนั้นคือ "ต้นทุนจม" ก้อนแรกที่ถูกสร้างขึ้น

ขั้นตอนที่ 2: แสดง "ผลกำไรปลอม" (Fake Returns)

หลังจากโอนก้อนแรก Scammer จะแสดงให้เห็นว่าการลงทุนนั้น "ได้ผลจริง" เช่น:

  • หน้าแอปฯ หรือเว็บไซต์ปลอมแสดงตัวเลข "กำไร" ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • ในบางกรณี อาจยอมให้เหยื่อ "ถอนเงินกำไร" ก้อนเล็กๆ ออกมาได้จริงในครั้งแรก เพื่อสร้างความไว้วางใจสูงสุด

ผลทางจิตวิทยา: เหยื่อจะยิ่งมั่นใจและ "ลงทุนเพิ่ม" ด้วยเงินก้อนที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ "ต้นทุนจม" (Sunk Cost) สูงขึ้นตามไปด้วย

ขั้นตอนที่ 3: สร้าง "อุปสรรค" ในการถอนเงิน (The Trap)

นี่คือจุดที่ Sunk Cost Fallacy ทำงานอย่างเต็มที่ เมื่อเหยื่อพยายามจะ "ถอนเงินต้นและกำไร" ก้อนใหญ่ออกมา Scammer จะสร้างปัญหาขึ้นมาทันที:

  • "คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการถอน 10%"
  • "คุณต้องจ่ายภาษีก่อน 20% ถึงจะถอนได้"
  • "บัญชีของคุณถูกล็อค ต้องโอนเงินเพื่อยืนยันตัวตน"
  • "ยอดเงินของคุณสูงเกินไป ต้องอัปเกรดเป็น VIP ก่อน โดยการโอนเงินเพิ่ม..."

ขั้นตอนที่ 4: เหยื่อ "ยิ่งเสีย ยิ่งโอนเพิ่ม" (The Fallacy in Action)

ณ จุดนี้ เหยื่ออาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่ากำลังถูกโกง แต่ "ต้นทุนจม" ที่ลงไปแล้ว (เช่น เงินต้น 100,000 บาท) มันค้ำคออยู่ สมองของเหยื่อจะเริ่มคิดอย่างไม่สมเหตุสมผลว่า:

"ถ้าฉันไม่โอนค่าภาษี 20,000 บาทนี้ เงิน 100,000 บาทแรกของฉันก็จะสูญไปเลยนะ... ลองเสี่ยงโอนเพิ่มอีกสักครั้งดีกว่า เพื่อจะได้เงินทั้งหมดกลับคืนมา"

Scammer จะใช้จิตวิทยานี้ "รีดไถ" เหยื่อไปเรื่อยๆ โดยอ้างค่าธรรมเนียม, ค่าปลดล็อค, ค่าทนาย ฯลฯ เหยื่อจะยิ่งโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะ "เสียดาย" เงินก้อนก่อนหน้าที่โอนไปแล้ว และหวังว่าการโอนครั้งสุดท้ายนี้จะทำให้ได้ "ทุกอย่าง" คืนมา จนกระทั่งหมดตัว


วิธีหลุดพ้นจาก "กับดักต้นทุนจม"

การเอาชนะ Sunk Cost Fallacy คือการบังคับให้สมอง "ระบบที่ 2" (การคิดช้าด้วยเหตุผล) กลับมาทำงาน แม้ว่า "ระบบที่ 1" (อารมณ์) จะกำลังโวยวายว่า "เสียดาย!" ก็ตาม

  1. ตระหนักรู้: เข้าใจว่านี่คือกลไกทางจิตวิทยาที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณ
  2. ถามคำถามที่ถูกต้อง: เปลี่ยนคำถามจาก "ฉันลงทุนไปเท่าไหร่แล้ว?" เป็น "ถ้าฉันเริ่มต้นวันนี้ โดยไม่มีอดีต ฉันจะยังโอนเงิน 20,000 บาทนี้ไปให้คนแปลกหน้าคนนี้หรือไม่?" (คำตอบคือ: ไม่แน่นอน!)
  3. ตัดขาดทุน (Cut Your Losses): ทำความเข้าใจและยอมรับความจริงที่เจ็บปวดว่า **"เงินที่โอนไปแล้ว คือเงินที่เสียไปแล้ว"** มันคือ "ต้นทุนจม" ที่คุณเอากลับคืนมาไม่ได้ การโอนเงินเพิ่มไม่ได้การันตีว่าจะได้เงินคืน แต่คือการ "การันตี" ว่าจะเสียเงินเพิ่มอีก
  4. หยุดทันที: หยุดการโอนเงินทุกกรณี และรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อไปแจ้งความ

บทเรียนที่สำคัญที่สุดคือ: การตัดสินใจในปัจจุบัน ควรขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ใน "อนาคต" ไม่ใช่ "ต้นทุน" ในอดีตที่เอากลับคืนมาไม่ได้



---

ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:** (สำหรับโซล่าเซลล์ การลงทุนที่โปร่งใส ตรวจสอบได้)
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน



IMG_2598.jpeg
Miss Kaewthip
Sharing management perspectives and strategies from direct experience as a Managing Director, with drive and determination inspired by Confucian philosophy.
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุปอนาคต "การโกง" vs "การป้องกัน" ในยุคที่ AI ฉลาดกว่ามนุษย์
SKE สรุปอนาคตของการโกง (Scam) และการป้องกันในยุค AI วิเคราะห์การต่อสู้ทางเทคโนโลยี Deepfake, AI Phishing และการป้องกันด้วย AI, Biometrics, Zero Trust
"มรดกปลอม" (Inheritance Scam): กลโกงทนายปลอม หลอกโอนเงิน | SKE
SKE เจาะลึกกลโกงมรดกปลอม (Inheritance Scam) ที่ใช้ "ทนายปลอม" ส่งอีเมลอ้างว่าคุณได้รับมรดกก้อนโต แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน รู้ทันกลโกง Advance-Fee Fraud
"Charity Scams": กลโกงหลอกทำบุญในยามวิกฤต (น้ำท่วม, โรคระบาด)
SKE เตือนภัย! เจาะลึก Charity Scam กลโกงหลอกทำบุญที่เล่นกับความใจบุญในยามวิกฤต (น้ำท่วม, โรคระบาด) รู้ทันวิธีตรวจสอบก่อนโอน
icon-whatsapp
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?
เริ่มแชท
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ