Grandparent Scam: "ย่า/ยาย ช่วยด้วย!" เสียงปลอมหลอกโอนเงิน | SKE

"The Grandparent Scam" (หลอกเป็นญาติ): "ย่า/ยาย ช่วยด้วย!" เสียงปลายสายที่เหมือนจริง จนคุณต้องรีบโอน
เสียงโทรศัพท์กลางดึก ปลายสายคือเสียงสั่นเครือที่อ้างว่าเป็น "หลาน" กำลังเดือดร้อน ต้องการเงินด่วน และขอร้องว่า "อย่าเพิ่งบอกพ่อแม่"... สถานการณ์บีบคั้นหัวใจเช่นนี้คือกลโกงสุดคลาสสิกที่เรียกว่า "Grandparent Scam" ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ความรักและความเป็นห่วงของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ และในยุค AI เสียงที่ "เหมือนจริง" ก็ยิ่งทำให้การหลอกลวงแนบเนียนขึ้นไปอีก บทความนี้ SKE จะมาตีแผ่กลลวงนี้ และบอกวิธีปกป้องคนที่คุณรัก
Grandparent Scam คืออะไร?
Grandparent Scam (หรืออาจเรียกว่า Relative Impersonation Scam) คือ การที่มิจฉาชีพ (Scammer) โทรศัพท์ (หรือบางครั้งส่งข้อความ) ไปหาผู้สูงอายุ โดย "แอบอ้าง" เป็นหลาน, ลูก, หรือญาติสนิทคนอื่นๆ ที่กำลังตกอยู่ใน "สถานการณ์ฉุกเฉิน" และต้องการ "เงินด่วน" เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
หัวใจของกลโกงนี้คือการ "เล่นกับอารมณ์" (ความรัก, ความเป็นห่วง, ความตกใจ) และ "สร้างความเร่งด่วน" เพื่อกดดันให้เหยื่อโอนเงินทันทีโดยไม่มีเวลาตรวจสอบ
"บทละคร" ที่ Scammer ใช้: 5 ขั้นตอนสู่การสูญเสีย
1. การเริ่มต้น: "ย่า/ยาย/ปู่/ตา... จำหนูได้ไหม?" (The Opening Gambit)
- การติดต่อ: มักจะโทรศัพท์เข้ามาโดยตรง (อาจเป็นเบอร์แปลก หรือเบอร์ที่ Spoof ให้ดูคล้ายเบอร์คนรู้จัก)
- การสร้างความสับสน/เปิดช่อง: มักจะเริ่มต้นด้วยประโยคกำกวม เช่น "นี่หนูเอง จำได้ไหม?" หรือ "ทายซิใครโทรมา?" เพื่อให้ผู้สูงอายุ "เดา" ชื่อหลานหรือญาติออกมาเอง เมื่อเหยื่อเอ่ยชื่อออกมา Scammer ก็จะสวมรอยเป็นคนนั้นทันที
- การใช้ข้อมูล (บางครั้ง): Scammer อาจหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับครอบครัวมาจากโซเชียลมีเดีย (เช่น รู้ชื่อเล่นหลาน) เพื่อทำให้การแอบอ้างดูสมจริงขึ้น
2. การสร้าง "วิกฤตการณ์" (Manufacturing the Crisis)
เมื่อสวมรอยเป็นหลาน/ญาติได้แล้ว Scammer จะสร้างเรื่องราวฉุกเฉินที่น่าตกใจและต้องการเงินทันที เช่น:
- อุบัติเหตุทางรถยนต์: "หนูขับรถชน ต้องการเงินจ่ายค่าเสียหาย/ค่ารักษาพยาบาลด่วน ไม่งั้นจะโดนจับ"
- ถูกจับกุม: "หนูโดนตำรวจจับ [ข้อหาปลอมๆ เช่น มียาเสพติดในรถเพื่อน] ต้องการเงินประกันตัวด่วน"
- ปัญหาทางการแพทย์: "หนูป่วยหนัก/เพื่อนป่วยหนัก ต้องจ่ายค่ารักษาฉุกเฉิน"
- ติดปัญหาอยู่ต่างประเทศ/ต่างจังหวัด: "กระเป๋าเงิน/พาสปอร์ตหาย ต้องการเงินค่าตั๋วกลับบ้าน"
เทคนิคเสริม: อาจมีการใช้เสียง "ร้องไห้", พูดติดๆ ขัดๆ, หรือมีเสียงรบกวนรอบข้าง เพื่อสร้างบรรยากาศตึงเครียดและสมจริง
3. การ "ปลอมเสียง" หรือใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ (Voice Mimicry/Exploitation)
คำถามคือ ทำไมผู้สูงอายุถึงเชื่อว่าเป็นเสียงหลานจริงๆ?
- คุณภาพเสียงโทรศัพท์: สัญญาณโทรศัพท์ที่ไม่ชัดเจนอยู่แล้ว อาจทำให้แยกแยะเสียงได้ยาก
- สภาวะอารมณ์: ความตกใจและความเป็นห่วง ทำให้สมองลดความสามารถในการวิเคราะห์รายละเอียดลง
- Scammer "ด้นสด": หากเหยื่อถามคำถามเฉพาะเจาะจง Scammer อาจตอบเลี่ยงๆ หรือรีบเปลี่ยนเรื่อง
- เทคโนโลยี AI ปลอมเสียง (ยุคใหม่): มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ Scammer จะใช้ AI เรียนรู้เสียงจากคลิปวิดีโอสั้นๆ (ที่อาจหาได้จากโซเชียลมีเดีย) เพื่อสร้าง "เสียงปลอม" ที่เหมือนจริงขึ้นมาใช้ในการหลอกลวง ซึ่งน่ากลัวอย่างยิ่ง
4. การขอร้อง "อย่าบอกใคร" (Plea for Secrecy)
นี่คือจุดตายสำคัญ! Scammer มักจะขอร้องเหยื่อว่า:
"ย่า/ยาย อย่าเพิ่งบอกพ่อแม่นะ หนูไม่อยากให้พวกท่านไม่สบายใจ เดี๋ยวหนูเคลียร์เรื่องนี้เสร็จจะรีบโทรหาเอง"
- เหตุผลที่แท้จริง: เพื่อ "ป้องกันไม่ให้เหยื่อโทรไปตรวจสอบ" กับพ่อแม่ของหลาน หรือญาติคนอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ความแตกทันที
5. การเร่งรัดเรื่อง "เงิน" (The Urgent Demand for Money)
- วิธีการโอน: มักจะขอให้โอนเงินผ่านช่องทางที่ "เร็ว" และ "ตรวจสอบยาก" เช่น โอนเข้าบัญชีม้า, ซื้อบัตรเติมเงิน/Gift Card แล้วบอกรหัส, หรือแม้กระทั่งให้รออยู่บ้าน เดี๋ยวจะมี "คนกลาง" (เช่น อ้างเป็นทนาย/เพื่อน) มารับเงินสด
- ความกดดัน: จะเร่งรัดและกดดันให้โอนเงิน "เดี๋ยวนี้" โดยอ้างถึงผลกระทบร้ายแรงหากไม่รีบดำเนินการ
ทำไมกลโกงนี้ถึงได้ผลกับผู้สูงอายุเป็นพิเศษ?
- ความรักและความผูกพัน: ความเป็นห่วงหลาน/ลูก ทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ
- ความไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี/กลโกง: อาจตามไม่ทันรูปแบบการหลอกลวงใหม่ๆ
- ความเกรงใจ/ไม่กล้าถามซ้ำ: อาจไม่กล้าถามคำถามเยอะเพราะกลัวหลานจะรำคาญหรือสถานการณ์จะแย่ลง
- ปัญหาด้านการได้ยิน/ความจำ (บางครั้ง): อาจทำให้แยกแยะเสียงหรือจำรายละเอียดได้ยากขึ้น
วิธีป้องกัน "คนที่คุณรัก" จาก Grandparent Scam
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการ "สื่อสาร" และ "เตรียมพร้อม" ล่วงหน้า:
- พูดคุยและให้ข้อมูล: อธิบายกลโกงรูปแบบนี้ให้ผู้สูงอายุในบ้านฟังบ่อยๆ ย้ำว่า Scammer เก่งแค่ไหนในการปลอมเสียงและสร้างเรื่อง
- "หยุด คิด ถาม โทรกลับ": สอนหลักการง่ายๆ ว่าหากได้รับโทรศัพท์ลักษณะนี้ ให้:
- หยุด: ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องรีบทำอะไร
- คิด: เรื่องที่เล่ามาสมเหตุสมผลหรือไม่? ทำไมหลานไม่โทรหาพ่อแม่?
- ถาม: ลองถามคำถาม "ส่วนตัว" ที่มีแต่หลานตัวจริงเท่านั้นที่รู้ (เช่น ชื่อเล่นหมา, โรงเรียนประถม)
- โทรกลับ: **สำคัญที่สุด!** วางสายนั้นทันที แล้วโทรกลับไปหา "หลาน" ด้วย "เบอร์โทรศัพท์เดิมที่คุณมี" หรือโทรหา "พ่อแม่" ของหลาน เพื่อตรวจสอบเรื่องราว
- ตั้ง "รหัสลับ" ประจำครอบครัว (Family Code Word): ตกลง "คำ" หรือ "วลี" ลับที่รู้กันเฉพาะคนในครอบครัว หากมีใครโทรมาขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ให้ถามรหัสลับนี้ก่อนเสมอ
- จำกัดข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย: แนะนำให้สมาชิกในครอบครัวตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว (เช่น ชื่อญาติ, เบอร์โทร) หรือภาพถ่าย/วิดีโอ มากเกินไป
- ย้ำว่า "ไม่เป็นไรที่จะปฏิเสธ": ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายใจที่จะปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ หากพวกเขารู้สึกไม่แน่ใจ
สรุป: ความรักต้องมาพร้อม "สติ"
Grandparent Scam คือกลโกงที่เล่นกับความรู้สึกอันดีงามที่สุดของมนุษย์
วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องคนที่คุณรัก คือการมอบ "ความรู้" และ "ภูมิคุ้มกันทางความคิด" ให้กับพวกเขา พูดคุยกันอย่างเปิดอกถึงภัยร้ายเหล่านี้ และสร้าง "เกราะป้องกัน" ง่ายๆ อย่างการ "โทรกลับ" หรือ "รหัสลับ" เพื่อให้ความรักและความห่วงใย ไม่กลายเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาทำร้ายได้
---
ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:** (สำหรับโซล่าเซลล์เท่านั้นนะครับ! )
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน
Miss Kaewthip



