"คดีไม่คืบหน้า" ทำไมตามจับ Scammer ถึงยากยิ่งกว่างมเข็ม? | SKE

"คดีไม่คืบหน้า" ทำไมการตามจับสแกมเมอร์ ถึง "ยาก" ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
หนึ่งในความเจ็บปวดซ้ำสองของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ Scammer นอกจากสูญเสียเงินแล้ว คือความรู้สึกว่า "คดีไม่คืบหน้า" ตำรวจดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้ และโอกาสที่จะได้เงินคืนก็ริบหรี่เต็มที ทำไมการตามจับอาชญากรไซเบอร์เหล่านี้ถึงยากเย็นแสนเข็ญราวกับงมเข็มในมหาสมุทร? บทความนี้ SKE จะมาตีแผ่ความจริงอันซับซ้อนเบื้องหลัง
การจับกุม Scammer ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการจับโจรวิ่งราวตามท้องถนน แต่มันคือสงครามไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยความท้าทายทางเทคนิค, กฎหมาย, และการประสานงานระหว่างประเทศ นี่คือเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้คดีมักจะ "คาราคาซัง":
1. การปกปิดตัวตนขั้นเทพ (Sophisticated Anonymity)
Scammer คือ "ผี" ในโลกดิจิทัล พวกเขาใช้สารพัดวิธีในการซ่อนตัวตน:
- ข้อมูลปลอม: ใช้ชื่อปลอม, รูปโปรไฟล์ปลอม, สร้างบัญชีโซเชียลมีเดียปลอม
- เทคโนโลยีอำพราง:
- VPN (Virtual Private Network): ซ่อนตำแหน่งที่อยู่ IP Address จริง ทำให้ดูเหมือนโทรหรือใช้งานอินเทอร์เน็ตจากประเทศอื่น
- VoIP & Call Spoofing: โทรผ่านอินเทอร์เน็ตและ "ปลอม" หมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงบนหน้าจอเหยื่อ
- Encrypted Communications: ใช้แอปฯ แชทที่มีการเข้ารหัสลับ (เช่น Telegram) ทำให้ยากต่อการดักจับข้อความ
- Disposable Numbers/Emails: ใช้เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล "ใช้แล้วทิ้ง"
ผลลัพธ์: การระบุว่า "ใคร" คือผู้ลงมือกระทำผิดจริงๆ นั้นยากมากตั้งแต่ขั้นแรก
2. ปฏิบัติการข้ามพรมแดน (Cross-Border Operations) ️
นี่คืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด! แก๊ง Scammer ส่วนใหญ่:
- ตั้งฐานปฏิบัติการในต่างประเทศ: มักอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวด หรือมีความร่วมมือกับทางการไทยน้อย
- โจมตีเหยื่อในอีกประเทศหนึ่ง: เช่น ตั้งฐานในกัมพูชา โทรหลอกคนไทย
ความท้าทายทางกฎหมายและการสืบสวน:
- เขตอำนาจศาล (Jurisdiction): ตำรวจไทยไม่มีอำนาจเข้าไปจับกุมคนร้ายในประเทศอื่นโดยตรง
- การประสานงานระหว่างประเทศ: การขอความร่วมมือจากตำรวจต่างประเทศ (ผ่านช่องทางทางการทูตหรือตำรวจสากล) เป็นกระบวนการที่ "ซับซ้อน" และ "ใช้เวลานานมาก" อาจติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย, ภาษา, หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
- หลักฐานข้ามแดน: การรวบรวมพยานหลักฐาน (เช่น ข้อมูลการใช้โทรศัพท์, IP Address) จากผู้ให้บริการในต่างประเทศทำได้ยากและล่าช้า
ผลลัพธ์: แม้จะรู้ว่าฐานอยู่ที่ไหน แต่การจะเข้าไป "ทลาย" หรือ "จับกุม" นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
3. เขาวงกต "บัญชีม้า" (The Mule Account Maze)
อย่างที่เราเคยกล่าวถึง บัญชีม้าคือเครื่องมือฟอกเงินชั้นยอด:
- หลายทอด หลายธนาคาร: เงินจากเหยื่อจะถูกโอนต่อไปยังบัญชีม้าอื่นๆ นับสิบหรือนับร้อยบัญชี ภายในเวลาไม่กี่นาที
- ข้ามธนาคาร ข้ามประเทศ: อาจมีการโอนเงินข้ามธนาคาร หรือแม้กระทั่งโอนออกไปยังบัญชีในต่างประเทศ หรือแปลงเป็น Cryptocurrency ซึ่งยิ่งตามรอยได้ยาก
- ความเร็วในการยักย้าย: Scammer ถอนเงินสดหรือโอนเงินออกไปเร็วกว่าที่ธนาคารจะ "อายัด" ได้ทัน (แม้จะมี พ.ร.ก. ใหม่แล้วก็ตาม)
ผลลัพธ์: การติดตามเส้นทางการเงิน "เส้นสุดท้าย" ที่จะนำไปสู่ตัวการใหญ่นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้ และโอกาสที่จะ "อายัดเงิน" คืนมาให้เหยื่อก็น้อยมาก
4. ทรัพยากรที่จำกัดของเจ้าหน้าที่ (Limited Law Enforcement Resources)
ต้องยอมรับความจริงว่า:
- คดีล้นมือ: ปริมาณคดีฉ้อโกงออนไลน์มีจำนวนมหาศาล เพิ่มขึ้นทุกวัน
- บุคลากรจำกัด: จำนวนตำรวจไซเบอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางยังมีจำกัดเมื่อเทียบกับปริมาณคดี
- งบประมาณและเครื่องมือ: การสืบสวนทางเทคนิคต้องใช้เครื่องมือและงบประมาณที่สูง
- การจัดลำดับความสำคัญ: เจ้าหน้าที่อาจต้องจัดลำดับความสำคัญของคดี โดยเน้นไปที่คดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง, มีผู้เสียหายจำนวนมาก, หรือมี "เบาะแส" ที่ชัดเจนกว่า
ผลลัพธ์: คดีที่มีมูลค่าความเสียหายน้อย หรือมีเบาะแสน้อย อาจไม่ได้รับการสืบสวนอย่างเต็มที่ หรือใช้เวลานานมาก
5. ความซับซ้อนทางเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น (Increasing Technological Complexity)
- AI Deepfakes: การปลอมเสียง/วิดีโอ ทำให้การระบุตัวตนยากขึ้น
- Cryptocurrency: การใช้สกุลเงินดิจิทัลในการฟอกเงิน ทำให้ตามรอยยากขึ้น
- แพลตฟอร์มที่เข้ารหัส: การใช้ Telegram หรือ Dark Web ในการสื่อสาร
เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ Scammer มีเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องคอย "ไล่ตาม" อยู่เสมอ
สรุป: สงครามที่ไม่สมมาตร
การตามจับ Scammer คือ "สงครามที่ไม่สมมาตร" (Asymmetric Warfare)
- Scammer: อยู่ในเงามืด, ไร้ตัวตน, เคลื่อนไหวเร็ว, ไร้พรมแดน, ใช้เทคโนโลยีล่าสุด
- เจ้าหน้าที่: ต้องทำงานภายใต้กรอบกฎหมาย, ข้อจำกัดด้านทรัพยากร, และความซับซ้อนของการประสานงานข้ามแดน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคดีถึง "ไม่คืบหน้า" อย่างที่เหยื่อคาดหวัง และทำไม "การป้องกันตัวเอง" (Prevention) ด้วย Digital Hygiene และ Zero Trust Mindset จึงเป็น "เกราะป้องกันที่ดีที่สุด" เพราะการไล่ตามหลังจากเกิดเหตุนั้น ยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ
---
ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:** (สำหรับโซล่าเซลล์เท่านั้นนะครับ! )
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน
Miss Kaewthip



