"Charity Scams" (หลอกทำบุญ): กลโกงที่เล่นกับ "ความใจบุญ" ของคนในยามวิกฤต (น้ำท่วม, โรคระบาด)

ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม, แผ่นดินไหว, หรือโรคระบาด นอกจากเราจะได้เห็น "พลังแห่งน้ำใจ" ของผู้คนที่หลั่งไหลเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ก็มักจะมี "เงา" ของกลุ่มมิจฉาชีพที่คอยฉกฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้เสมอ "Charity Scams" หรือ "กลโกงหลอกทำบุญ" คือภัยมืดที่ใช้ความเมตตาและความเร่งด่วนเป็นเครื่องมือ บทความนี้ SKE จะมาตีแผ่กลลวงนี้ และแนะวิธีทำบุญอย่างไรให้ "ถึงมือ" ผู้เดือดร้อนจริง

ทำไม "ยามวิกฤต" ถึงเป็น "นาทีทอง" ของ Scammer?

ในภาวะวิกฤต (เช่น น้ำท่วมใหญ่, การระบาดของ COVID-19) สภาวะจิตใจของเราจะเปลี่ยนไป ซึ่งเอื้อต่อการหลอกลวงอย่างมาก:

• อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล: เราเห็นภาพข่าวที่น่าสะเทือนใจ ทำให้เกิด "ความสงสาร" และ "ความเป็นห่วง" อย่างรุนแรง (สมองระบบที่ 1 ทำงาน)
• ความรู้สึกเร่งด่วน: เรารู้สึกว่าต้อง "รีบ" ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที ("หยุด. คิด. ตรวจสอบ." ถูกละเลย)
• ข้อมูลท่วมท้น: ข่าวสารและช่องทางการบริจาคมีมากมายจนสับสน แยกแยะได้ยากว่าอันไหนจริง อันไหนปลอม
• ความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นชั่วขณะ: เรามีแนวโน้มที่จะ "เชื่อ" ว่าทุกคนกำลังร่วมมือกันทำความดี และลดกำแพงป้องกันตัวเองลง

Scammer ใช้ "สภาวะอารมณ์ร่วม" ของสังคมนี้เป็นประโยชน์ในการสอดแทรกกลโกงของตนเข้ามา

รูปแบบกลโกง "หลอกทำบุญ" ที่พบบ่อย

Scammer จะใช้วิธีการที่ดู "คล้าย" กับการรับบริจาคจริงมากที่สุด:

1. เว็บไซต์/เพจ Facebook "ปลอม" ขององค์กรการกุศล

• เทคนิค: สร้างเว็บไซต์หรือเพจ Facebook ที่ "โคลน" หน้าตา, โลโก้, และรูปภาพ มาจากองค์กรการกุศลชื่อดัง (เช่น สภากาชาด, มูลนิธิร่วมกตัญญู, UNICEF) แต่ "เปลี่ยน" เลขที่บัญชีรับบริจาคเป็น "บัญชีม้า"
• ความแนบเนียน: อาจใช้ URL หรือชื่อเพจที่สะกดผิดเล็กน้อย (Typosquatting) เช่น Thairedcross.org (ของจริง) เป็น Thairedcross.com (ของปลอม)

2. การตั้ง "โครงการรับบริจาค" ลอยๆ ขึ้นมาเอง

• เทคนิค: สร้างเรื่องราวที่น่าสงสาร (เช่น อ้างชื่อหมู่บ้านที่ประสบภัย, โรงพยาบาลที่ขาดแคลน) นำภาพข่าวจริงมาประกอบ แล้วแปะ "เลขบัญชีส่วนบุคคล" (บัญชีม้า) เพื่อขอรับบริจาคโดยตรง
• ช่องทาง: มักพบบนโซเชียลมีเดีย (Facebook, LINE, TikTok) และอาศัยการ "แชร์ต่อ" ของผู้ใจบุญเพื่อกระจายกลโกง

3. อีเมล/SMS/โทรศัพท์ ขอรับบริจาค (Phishing & Vishing)

• เทคนิค: ส่งอีเมลหรือ SMS ขอรับบริจาคในนามองค์กรใหญ่ หรือโทรศัพท์มาโดยตรง (Vishing) อ้างว่าเป็นตัวแทนจากมูลนิธิ เพื่อขอข้อมูลบัตรเครดิต หรือให้โอนเงิน
• ความอันตราย: นอกจากเสียเงินแล้ว อาจถูกขโมยข้อมูลทางการเงินไปด้วย

4. การเรี่ยไรโดย "บุคคล" หรือ "กลุ่ม" ที่ไม่รู้จัก

• เทคนิค: เดินถือกล่องรับบริจาคตามสถานที่ต่างๆ หรือตั้งโต๊ะรับบริจาค โดยไม่มีเอกสารอนุญาตที่ชัดเจน หรือใช้เอกสารปลอม

วิธี "ทำบุญ" ให้ "ได้บุญ" (ไม่โดนโกง): เช็คลิสต์ก่อนโอน

ความใจบุญเป็นสิ่งที่ดี แต่ในยุคนี้ต้องมาพร้อมกับ "ความรอบคอบ" ใช้หลักการ "หยุด. คิด. ตรวจสอบ." ก่อนโอนเงินทุกครั้ง

1. "หยุด" ก่อนโอนทันทีที่เห็นโพสต์

อย่าเพิ่งเชื่อในภาพที่น่าสงสารหรือข้อความที่เร่งด่วน ให้ "หยุด" และตั้งสติก่อน

2. "คิด" และ "สงสัย"

• บัญชีรับบริจาคเป็น "ชื่อบุคคล" หรือไม่? (ธงแดงที่ใหญ่ที่สุด!) องค์กรการกุศลที่น่าเชื่อถือ "เกือบทั้งหมด" จะใช้บัญชีในนาม "มูลนิธิ" หรือ "องค์กร" เท่านั้น การโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคลมีความเสี่ยงสูงมาก
• องค์กรนี้มีอยู่จริงหรือไม่? ชื่อคุ้นๆ หรือไม่?
• ทำไมถึงติดต่อเราทางนี้? ทำไมมูลนิธิใหญ่ต้องส่ง SMS มาขอเงิน?

3. "ตรวจสอบ" ด้วยตัวเอง (Verification is Key!)

• ตรวจสอบกับ "แหล่งข้อมูลทางการ" เท่านั้น:
  • หากต้องการบริจาคให้องค์กรใหญ่ (เช่น สภากาชาด, ยูนิเซฟ, มูลนิธิโรงพยาบาลต่างๆ) "ห้าม" ใช้เลขบัญชีจากโพสต์ที่แชร์ต่อกันมา
  • ให้ "เข้าเว็บไซต์ทางการ" ขององค์กรนั้นๆ โดยตรง (พิมพ์ URL เอง หรือค้นหาจาก Google) แล้วหา "เลขที่บัญชีรับบริจาค" ที่ถูกต้องจากในเว็บ
  • หรือ ตรวจสอบจากสื่อที่น่าเชื่อถือ (เช่น สถานีโทรทัศน์, สำนักข่าวหลัก) ที่มักจะช่วยประชาสัมพันธ์ช่องทางที่ถูกต้อง
• ตรวจสอบผู้รับบริจาครายย่อย: หากเป็นการบริจาคช่วยบุคคลหรือกลุ่มเล็กๆ ให้พยายามตรวจสอบความน่าเชื่อถือ เช่น เป็นเพื่อนของเพื่อนที่ยืนยันตัวตนได้หรือไม่? มีประวัติการช่วยเหลือที่ชัดเจนหรือไม่?
• ค้นหาข้อมูล: ลองนำ "ชื่อบัญชี" หรือ "เลขที่บัญชี" ไปค้นหาใน Google หรือ Facebook ดูว่ามีใครเคยแจ้งเตือนว่าเป็น "บัญชีม้า" หรือไม่

4. บริจาคผ่านช่องทางที่ปลอดภัย

• ช่องทางทางการขององค์กร: ใช้ระบบบริจาคบนเว็บไซต์ทางการ, แอปฯ ธนาคารที่สแกน QR Code จากแหล่งที่เชื่อถือได้, หรือเคาน์เตอร์บริการ
• หลีกเลี่ยง: การให้ข้อมูลบัตรเครดิตผ่านโทรศัพท์ หรือการคลิกลิงก์ในอีเมล/SMS ที่ไม่รู้จัก

สรุป: ทำบุญอย่างมีสติ เพื่อให้เงินถึงมือผู้รับจริง

Charity Scam คืออาชญากรรมที่ทำลาย "ศรัทธา" และ "น้ำใจ" ของผู้คน มันขโมยเงินที่ควรจะไปถึงมือผู้ที่กำลังเดือดร้อนที่สุด

อย่าปล่อยให้ความใจบุญของคุณกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ การสละเวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อ "ตรวจสอบ" แหล่งที่มาของบัญชีรับบริจาคให้แน่ใจ คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะการันตีว่า "เงินบุญ" ของคุณได้ถูกส่งไป "ช่วยชีวิต" ผู้คนจริงๆ ไม่ใช่เข้ากระเป๋า Scammer

---

ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:** (สำหรับโซล่าเซลล์เท่านั้นนะครับ! )
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน