แชร์

เลือกโบรกเกอร์ (Broker) ที่ไหนดี? (ค่าคอมฯ vs เครื่องมือ) | SKE

IMG_2598.jpeg Miss Kaewthip
อัพเดทล่าสุด: 30 ต.ค. 2025
22 ผู้เข้าชม

เลือกโบรกเกอร์ (Broker) ที่ไหนดี? (ค่าคอมฯ vs เครื่องมือ) | SKE

การเลือก "โบรกเกอร์" หรือ บริษัทหลักทรัพย์ คือประตูบานแรกและบานที่สำคัญที่สุดในการเข้าสู่ตลาดหุ้น มือใหม่ส่วนใหญ่มักเลือก "โบรกเกอร์" เดียวกับ "ธนาคาร" ที่ตัวเองมีบัญชีเงินฝากอยู่ เพียงเพราะ "สะดวก" และ "ง่าย" ในการดำเนินการ

แต่การเลือกโบรกเกอร์เพียงเพราะความสะดวก อาจทำให้ต้องเสีย "ต้นทุน" หรือ "ค่าเสียโอกาส" ที่ไม่จำเป็นไปตลอดชีวิตการลงทุน ในความเป็นจริง โบรกเกอร์แต่ละแห่งมี "จุดแข็ง" และ "จุดอ่อน" ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในสองมิติหลักที่ขัดแย้งกันเสมอ นั่นคือ ค่าคอมมิชชั่น (ราคา) และ เครื่องมือ (บริการ)

บทความนี้จะเจาะลึกปัจจัยทั้งสอง เพื่อช่วยให้ค้นพบโบรกเกอร์ที่ "เหมาะสม" กับสไตล์การลงทุนของตัวเองมากที่สุด


ปัจจัยที่ 1: ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Commission)

นี่คือ "ต้นทุน" ที่จับต้องได้มากที่สุด ค่าคอมมิชชั่นคือค่าบริการที่โบรกเกอร์เรียกเก็บทุกครั้งที่มีการ "ซื้อ" หรือ "ขาย" โดยทั่วไป อัตราค่าคอมมิชชั่นสำหรับการเทรดออนไลน์ในตลาดหุ้นไทยจะใกล้เคียงกันมาก (เช่น 0.15% - 0.20%)

"กับดัก" ที่แท้จริง: ค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ (Minimum Fee)

สิ่งที่มือใหม่ต้องให้ความสำคัญมากกว่า "อัตราค่าคอมฯ" (เช่น 0.15% หรือ 0.16%) ก็คือ "ค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ"

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ในไทย (โดยเฉพาะโบรกเกอร์ในเครือธนาคารใหญ่) มักมีนโยบายเก็บค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ 50 บาท ต่อวัน (สำหรับการซื้อขายหุ้นในวันนั้น) ในขณะที่โบรกเกอร์อีกกลุ่มหนึ่ง (มักเป็นโบรกเกอร์ที่เน้นการแข่งขันสูง) จะ "ไม่มีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ"

ความแตกต่างนี้ "มหาศาล" สำหรับมือใหม่ที่มีพอร์ตการลงทุนขนาดเล็ก ลองดูตัวอย่างการเปรียบเทียบนี้:

สถานการณ์ โบรกเกอร์ A (ไม่มีขั้นต่ำ) โบรกเกอร์ B (มีขั้นต่ำ 50 บาท)
ซื้อหุ้น 1 ตัว มูลค่า 10,000 บาท (อัตราคอมฯ 0.15%) 10,000 x 0.15% = 15 บาท (บวก VAT 7%) คำนวณได้ 15 บาท แต่ถูกปัดขึ้นเป็น 50 บาท (บวก VAT 7%)
ซื้อหุ้น 1 ตัว มูลค่า 5,000 บาท (อัตราคอมฯ 0.15%) 5,000 x 0.15% = 7.50 บาท (บวก VAT 7%) คำนวณได้ 7.50 บาท แต่ถูกปัดขึ้นเป็น 50 บาท (บวก VAT 7%)
ข้อควรตระหนักสำหรับมือใหม่:

หากซื้อหุ้นเพียง 5,000 บาท แต่ต้องเสียค่าคอมฯ 50 บาท นั่นหมายความว่าต้นทุนการซื้อครั้งนี้คือ 1% (50 บาท / 5,000 บาท) หุ้นต้องขึ้นอย่างน้อย 2% (รวมขาซื้อและขาขาย) ถึงจะ "เท่าทุน"!

ดังนั้น สำหรับมือใหม่ที่มีงบประมาณจำกัด (เช่น 10,000 - 100,000 บาท) และอาจมีการซื้อขายเพื่อเรียนรู้ การเลือก "โบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ" จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด


ปัจจัยที่ 2: เครื่องมือและบทวิเคราะห์ (Tools & Research)

นี่คือ "บริการ" ที่โบรกเกอร์มอบให้เพื่อแลกกับค่าคอมมิชชั่นที่เก็บไป "เครื่องมือ" ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงโปรแกรม Streaming (เพราะทุกคนมีให้เหมือนกัน) แต่หมายถึง "บริการเสริม" ที่แต่ละโบรกเกอร์พัฒนาขึ้นมาเอง

โดยทั่วไป โบรกเกอร์ที่ "มีค่าคอมฯ ขั้นต่ำ" (กลุ่มธนาคาร) มักจะมีบริการเสริมเหล่านี้ที่แข็งแกร่งกว่า:

1. บทวิเคราะห์ (Research Papers)

นี่คือหัวใจของ "นักลงทุนสายพื้นฐาน" (VI) โบรกเกอร์ที่มีทีมนักวิเคราะห์ขนาดใหญ่และเก่งกาจ จะสามารถผลิตบทวิเคราะห์เชิงลึก (Initiate Coverage), บทวิเคราะห์รายวัน (Daily Report), และบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic Review) ที่มีคุณภาพสูง ช่วยในการตัดสินใจลงทุนระยะยาวได้

2. แอปพลิเคชัน / โปรแกรมเสริม (Proprietary Apps)

โบรกเกอร์หลายแห่งทุ่มงบประมาณพัฒนา "โปรแกรมเทรด" ของตัวเองขึ้นมาเสริมจาก Streaming เพื่อดึงดูดนักเทรดสายเทคนิค เช่น:

  • โปรแกรมสแกนหุ้นขั้นสูง (Advanced Scanners): ฟังก์ชันที่ให้สร้างเงื่อนไขการสแกนที่ซับซ้อนกว่าใน Streaming ปกติ
  • ระบบดูกราฟ (Advanced Charting): เครื่องมือดูกราฟเทคนิคที่มี Indicators หรือฟังก์ชันวาดเส้นที่หลากหลายกว่า
  • ระบบส่งคำสั่งพิเศษ: เช่น การส่งคำสั่งแบบ Trailing Stop หรือ OCO (One-Cancels-the-Other) ที่ใช้งานง่ายกว่า

3. การบริการลูกค้า (Customer Service)

หรือที่เรียกว่า "มาร์เก็ตติ้ง" (Marketing Officer) โบรกเกอร์กลุ่มดั้งเดิมมักจะมีจุดแข็งด้านการบริการ มีเจ้าหน้าที่คอยรับโทรศัพท์, ให้คำปรึกษา, หรือช่วยแก้ปัญหาพอร์ตได้รวดเร็ว ในขณะที่โบรกเกอร์สาย "ค่าคอมฯ ถูก" อาจเน้นการบริการแบบ Self-Service ผ่านแชทบอทหรืออีเมลเป็นหลัก


สรุป: แล้วจะเลือกอย่างไรดี? (เลือกตามสไตล์)

ไม่มีโบรกเกอร์ "ดีที่สุด" มีแต่โบรกเกอร์ที่ "เหมาะสมที่สุด" กับสไตล์การลงทุนในขณะนั้น ลองพิจารณาว่าตัวเองจัดอยู่ในกลุ่มไหน:

โปรไฟล์นักลงทุน สิ่งที่ควรมองหาเป็นอันดับ 1 เหตุผล
มือใหม่ งบน้อย (พอร์ต < 100,000 บาท)
หรือ "สายเทรด" ที่ซื้อๆ ขายๆ บ่อย
"ไม่มีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ" เพื่อประหยัดต้นทุน ต้นทุนที่ต่ำลงคือ "กำไร" ที่เห็นทันที การประหยัด 50 บาท สำคัญกว่าเครื่องมือที่ยังใช้ไม่เป็น
นักลงทุน VI (สายพื้นฐาน)
ที่ซื้อหุ้นนานๆ ครั้ง (ปีละ 2-3 ครั้ง)
"คุณภาพบทวิเคราะห์" และ "ความน่าเชื่อถือ" เนื่องจากซื้อขายไม่บ่อย การเสียค่าคอมฯ ขั้นต่ำ 50 บาท จึงไม่ส่งผลกระทบ แต่ต้องการข้อมูลเชิงลึกที่ดีที่สุดเพื่อตัดสินใจถือยาว
นักเทรดสายเทคนิค (Full-Time Trader)
ที่เทรดด้วย Volume สูง (ครั้งละ 300,000+)
"เครื่องมือ (Apps)" และ "ความเสถียรของระบบ" การเทรดครั้งละ 300,000 บาท จะเสียค่าคอมฯ (0.15%) ประมาณ 450 บาท ซึ่ง "เกินขั้นต่ำ" อยู่แล้ว พวกเขาจึงไม่สนใจค่าขั้นต่ำ แต่ต้องการเครื่องมือที่ดีที่สุด
คำแนะนำ: ไม่จำเป็นต้องมีโบรกเกอร์เดียว

นักลงทุนมืออาชีพจำนวนมากมักมีบัญชีโบรกเกอร์ 2-3 แห่ง เพื่อแยกสไตล์การลงทุน เช่น:

  • พอร์ต A (โบรกเกอร์ค่าคอมฯ ถูก): ใช้สำหรับ "เทรดระยะสั้น" หรือ "ทดลองกลยุทธ์"
  • พอร์ต B (โบรกเกอร์บทวิเคราะห์ดี): ใช้สำหรับ "ลงทุนระยะยาว" (VI) ในหุ้นพื้นฐาน

การเริ่มต้นด้วยโบรกเกอร์ที่ "ไม่มีขั้นต่ำ" จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่เสมอ และเมื่อเติบโตขึ้น ค่อยขยายไปเปิดบัญชีที่สองเพื่อเข้าถึงเครื่องมือที่ดีขึ้น


แหล่งอ้างอิง (References)

  1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET). (2568). รายชื่อบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์). เข้าถึงได้จาก www.set.or.th
  2. Settrade. (2568). เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์. เข้าถึงได้จาก www.settrade.com

SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!

บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)

(ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้ง Sungrow อย่างเป็นทางการ)

โทร: 045-905-215

เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th

Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon

LINE: @760fgpmx

#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย

© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.


IMG_2598.jpeg
Miss Kaewthip
Sharing management perspectives and strategies from direct experience as a Managing Director, with drive and determination inspired by Confucian philosophy.
บทความที่เกี่ยวข้อง
&quot;ตั๋งโต๊ะ&quot; ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
&quot;เตียวเสี้ยน&quot; และการอ่านใจ: การใช้ &quot;จุดอ่อน&quot; (ความใคร่) ของเป้าหมาย | SKE
เจาะลึก "เตียวเสี้ยน" (Diaochan) และ "กลสาวงาม" (Beauty Trap) วิเคราะห์จิตวิทยาการ "อ่านใจ" (Mind Reading) และการใช้ "จุดอ่อน" (ความใคร่, อัตตา) ของ ตั๋งโต๊ะ และ ลิโป้ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง
&quot;ตั๋งโต๊ะ&quot; ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
icon-whatsapp
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?
เริ่มแชท
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ