RSI: สัญญาณ "ซื้อแพง" (Overbought) "ขายถูก" (Oversold) ดูยังไง? | SKE

หาก MACD คือ "อินดิเคเตอร์มหาชน" RSI (Relative Strength Index) ก็คือ "เครื่องวัดอารมณ์มหาชน" ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน มันคือ "โมเมนตัม ออสซิลเลเตอร์" (Momentum Oscillator) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัด "ความเร็ว" และ "การเปลี่ยนแปลง" ของราคา เพื่อบอกเทรดเดอร์ว่า ตอนนี้อารมณ์ของตลาดกำลัง "โลภ" หรือ "กลัว" มากเกินไปหรือไม่

มือใหม่ส่วนใหญ่ถูกสอนให้ใช้ RSI แบบง่ายๆ คือ "แตะ 70 ขาย, แตะ 30 ซื้อ" ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ "อันตราย" อย่างยิ่ง และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ขาดทุนซ้ำซาก

บทความนี้จะเจาะลึกว่า RSI คืออะไร, จิตวิทยาที่แท้จริงของ Overbought/Oversold, กับดักที่ต้องหลีกเลี่ยง และวิธีใช้งานแบบมืออาชีพเพื่อหา "สัญญาณกลับตัว" ที่แท้จริง

1. RSI คืออะไร? (เครื่องวัดความเร่ง)

RSI ถูกสร้างโดย J. Welles Wilder Jr. เป็นเครื่องมือที่วิ่งอยู่ในกรอบ 0 ถึง 100 เพื่อวัด "ความแข็งแกร่ง" ของราคาในปัจจุบัน เทียบกับอดีต (ค่ามาตรฐานคือ 14 วัน)

แทนที่จะดูแค่ "ราคา" RSI จะดู "ขนาด" ของการขึ้น (Average Gain) เทียบกับ "ขนาด" ของการลง (Average Loss) ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

มี "เส้น" สำคัญ 3 ระดับที่ต้องรู้จัก:

• เส้น 70 (ระดับ Overbought): โซน "ซื้อมากเกินไป" หรือ "ตลาดร้อนแรง"
• เส้น 30 (ระดับ Oversold): โซน "ขายมากเกินไป" หรือ "ตลาดตื่นตระหนก"
• เส้น 50 (Centerline): เส้นแบ่งเขตระหว่าง "โมเมนตัมขาขึ้น" (>50) และ "โมเมนตัมขาลง" (<50)

2. สัญญาณ "มหาชน": Overbought / Oversold (สัญญาณซื้อ/ขาย แบบพื้นฐาน)

นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุดที่มือใหม่ใช้กัน:

3. "กับดักมรณะ" ของ Overbought/Oversold (ทำไมมือใหม่เจ๊ง)

นี่คือ "ความจริง" ที่มือใหม่ต้องรู้: RSI ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ "ซื้อเมื่อแตะ 30" หรือ "ขายเมื่อแตะ 70" การทำเช่นนั้นคือการ "เทรดสวนแนวโน้ม" (Counter-Trend) ซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง

กฎเหล็ก: "ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง RSI จะ 'ไร้ประโยชน์' ในการบอกจุดกลับตัว"

1. ใน "ขาขึ้น" ที่แข็งแกร่ง (Strong Uptrend):
RSI สามารถ "แช่" อยู่ในโซน Overbought (>70) ได้นานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน หาก "ขาย" ทันทีที่แตะ 70 นั่นคือการ "ขายหมู" ที่ต้นเทรนด์ และจะพลาดกำไรคำโตที่สุดไป

2. ใน "ขาลง" ที่แข็งแกร่ง (Strong Downtrend):
RSI สามารถ "แช่" อยู่ในโซน Oversold (<30) ได้นานมาก หาก "ซื้อ" ทันทีที่แตะ 30 นั่นคือการ "รับมีด" ที่ร่วงไม่หยุด (Buying a falling knife) และจะขาดทุนหนักทันที

RSI จะทำงานได้ดี (แตะ 70 แล้วลง, แตะ 30 แล้วขึ้น) ก็ต่อเมื่อตลาดอยู่ในภาวะ "Sideways" (ไม่มีแนวโน้ม) เท่านั้น

4. สัญญาณ "กลับตัว" ที่แท้จริง: RSI Divergence (สัญญาณมือโปร)

เช่นเดียวกับ MACD สัญญาณที่ "แม่นยำ" และ "เตือนล่วงหน้า" ได้ดีที่สุดของ RSI คือ **Divergence** มันคือการที่ "ราคา" และ "RSI" กำลัง "ขัดแย้งกัน"

นี่คือวิธีใช้โซน Overbought/Oversold ให้ถูกต้อง: "จงมองหา Divergence เมื่อ RSI เข้าสู่โซนอันตราย"

5. สัญญาณ "ยืนยันแนวโน้ม": การใช้เส้น 50 (The 50-Line Strategy)

สำหรับเทรดเดอร์สาย "เทรดตามแนวโน้ม" (Trend Following) พวกเขาจะไม่สนใจเส้น 70 หรือ 30 เลย แต่จะใช้ "เส้น 50" เป็น "เส้นแบ่งแดน" ที่สำคัญที่สุด

• RSI > 50: ภาวะกระทิง (Bullish Momentum)
  จิตวิทยา: แรงซื้อ (Average Gain) กำลัง "ชนะ" แรงขาย (Average Loss) อย่างต่อเนื่อง
  กลยุทธ์: มองหาเฉพาะ "จังหวะซื้อ" เท่านั้น (Buy on Dip) โดยอาจใช้เส้น 50 เป็น "แนวรับไดนามิก" (เมื่อ RSI ย่อลงมาแตะ 50 แล้วเด้งกลับ ถือเป็นสัญญาณซื้อ)
• RSI < 50: ภาวะหมี (Bearish Momentum)
  จิตวิทยา: แรงขาย (Average Loss) กำลัง "ชนะ" แรงซื้อ (Average Gain)
  กลยุทธ์: มองหาเฉพาะ "จังหวะขาย" หรือ "อยู่เฉยๆ" (ไม่เทรด) เท่านั้น

สรุป: ใช้งาน RSI แบบมือโปร (กรองสัญญาณหลอก)

การจะใช้ RSI ให้ "แม่นยำ" ห้ามใช้มันแบบเดี่ยวๆ ต้องใช้ร่วมกับ "บริบท" ของตลาดเสมอ

กลยุทธ์ RSI แบบมืออาชีพ

1. ระบุแนวโน้มหลักก่อน (Context): ใช้ Trend Line หรือ Moving Average ดูว่าตลาดเป็น "ขาขึ้น", "ขาลง", หรือ "Sideways"?
2. ถ้าเป็น "ขาขึ้น" (Uptrend):
   • ห้ามขาย เมื่อ RSI แตะ 70 (นั่นคือสัญญาณของความแข็งแกร่ง)
   • มองหาจังหวะ "ซื้อ" เมื่อ RSI ย่อตัวลงมาที่โซน 40-50 (ไม่ใช่ 30) แล้วเด้งกลับ (Buy the Dip)
3. ถ้าเป็น "ขาลง" (Downtrend):
   • ห้ามซื้อ เมื่อ RSI แตะ 30 (นั่นคือสัญญาณของความอ่อนแอ)
   • มองหาจังหวะ "ขาย" เมื่อ RSI เด้งขึ้นไปที่โซน 50-60 แล้วหักหัวลง
4. ถ้าเป็น "Sideways" (ไม่มีแนวโน้ม):
   • นี่คือเวลาเดียวที่กลยุทธ์ "ขายที่ 70" และ "ซื้อที่ 30" จะทำงานได้ผลดี (โดยเฉพาะเมื่อมันเกิดพร้อมกับแนวรับ-แนวต้านแนวนอน)
5. ใช้ Divergence เสมอ: ไม่ว่าจะอยู่ในแนวโน้มใด หากเกิด Bearish Divergence ที่โซน Overbought (>70) หรือ Bullish Divergence ที่โซน Oversold (<30) นี่คือ "สัญญาณเตือน" การกลับตัวที่น่าเชื่อถือที่สุด

RSI คือ "เครื่องวัดอุณหภูมิ" ไม่ใช่ "ลูกแก้วพยากรณ์" มันบอกว่าตลาด "ร้อน" หรือ "เย็น" แค่ไหน แต่ไม่ได้บอกว่ามันจะ "ป่วย" เมื่อไหร่ การใช้มันร่วมกับโครงสร้างราคา (แนวรับ-แนวต้าน) จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกรองสัญญาณหลอกและเพิ่มความแม่นยำ

แหล่งอ้างอิง (References)

1. Wilder, J. W. (1978). New Concepts in Technical Trading Systems. (หนังสือต้นตำรับโดยผู้สร้าง RSI)
2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET). (2568). การวิเคราะห์ทางเทคนิค: Relative Strength Index (RSI). เข้าถึงได้จาก www.set.or.th
3. Settrade. (2568). RSI Indicator. เข้าถึงได้จาก www.settrade.com

SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!

#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย

© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.