"Swing Trading" (เทรดรอบ): กลยุทธ์ทำกำไร 5-10% (ฉบับมนุษย์เงินเดือน) | SKE

"มนุษย์เงินเดือน" คือกลุ่มคนที่ใหญ่ที่สุดที่อยากเข้าสู่ตลาดหุ้น แต่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ที่สุด นั่นคือ "เวลา"

การเทรดแบบ "Day Trading" นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่สามารถเฝ้าหน้าจอระหว่างประชุมหรือทำงานประจำได้ ส่วนการลงทุนแบบ "Value Investor (VI)" ก็อาจจะ "ช้า" เกินไป และต้องใช้ความรู้เชิงลึกในการประเมินมูลค่ากิจการอย่างหนัก

"Swing Trading" (การเทรดรอบ) จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็น "จุดสมดุล" (The Sweet Spot) ที่สมบูรณ์แบบ มันคือกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อ "มนุษย์เงินเดือน" อย่างแท้จริง ที่ต้องการทำกำไรจากตลาดหุ้น โดย "ไม่จำเป็นต้องเฝ้าจอ"

บทความนี้จะเจาะลึกว่า Swing Trading คืออะไร, ทำไมมันถึงเหมาะกับคนทำงานประจำ, และกลยุทธ์ในการสร้าง "กระแสเงินสด" รอบละ 5-10%

1. Swing Trading คืออะไร? (เทียบให้ชัด)

Swing Trading คือกลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรจาก "การแกว่งตัว" (Swing) ของราคาในระยะกลาง ไม่สั้นเหมือน Day Trading และไม่ยาวเหมือน Investing

เป้าหมายคือการ "ซื้อ" ที่จุดเริ่มต้นของการแกว่งตัวขาขึ้น (Swing Low) และ "ขาย" ที่จุดสิ้นสุดของการแกว่งตัว (Swing High) โดยทั่วไปจะถือครองสถานะตั้งแต่ 2-3 วัน ไปจนถึง 2-3 สัปดาห์

2. ทำไม Swing Trading ถึง "เหมาะ" กับ "มนุษย์เงินเดือน"?

นี่คือ 4 เหตุผลหลักที่กลยุทธ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อคนทำงานประจำ:

1. ไม่จำเป็นต้อง "เฝ้าจอ" ตลอดเวลา (No Screen Time)

นี่คือเหตุผลอันดับ 1 มนุษย์เงินเดือนไม่สามารถจดจ่อกับกราฟ 5 นาทีระหว่างประชุมได้ Swing Trading ใช้การวิเคราะห์จากกราฟ Timeframe "Day" (วัน) เป็นหลัก ซึ่งหมายความว่า 1 แท่งเทียน = 1 วัน

Workflow ของมนุษย์เงินเดือน:

"ทำงานประจำ" ในเวลากลางวัน และใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง "หลังตลาดปิด" (หลังเลิกงาน) เพื่อเปิดกราฟ Day ดูว่ามีหุ้นตัวไหนเข้า "สัญญาณ" ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ การตัดสินใจทั้งหมดเกิดขึ้นใน "ตอนกลางคืน" โดยปราศจากอารมณ์ผันผวนระหว่างวัน

2. กรองสัญญาณหลอก (Filter out the Noise)

กราฟ Timeframe เล็ก (เช่น 1-5 นาที) เต็มไปด้วย "สัญญาณหลอก" (Noise) ที่เกิดจาก Robot Trade หรืออารมณ์ตลาดระยะสั้น แต่กราฟ Day จะ "กรอง" สัญญาณรบกวนเหล่านี้ออกไป เหลือเพียง "แนวโน้ม" (Trend) ที่แท้จริง ทำให้การตัดสินใจแม่นยำขึ้น

3. "คุ้มค่า" คอมมิชชั่น (Beats Commission Costs)

Day Trading ที่ทำกำไรครั้งละ 0.5% - 1% มักจะถูก "ค่าคอมมิชชั่น" (ขาซื้อ-ขาขาย) กินกำไรไปเกือบหมด แต่ Swing Trading มีเป้าหมายกำไรต่อรอบที่ 5%, 10% หรือ 15% ซึ่งมากพอที่จะทำให้ต้นทุนค่าคอมมิชชั่น "ไม่มีนัยสำคัญ"

4. ความเครียดต่ำกว่า (Less Stressful)

ไม่ต้องตัดสินใจในเสี้ยววินาที ไม่ต้องทนแรงกดดันมหาศาล Swing Trading คือการเทรดแบบ "ใจเย็น" มีเวลาวิเคราะห์, วางแผน, และตั้งคำสั่ง (เช่น Stop Loss) ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ

3. "เครื่องมือ" หลักของ Swing Trader (The Toolbox)

ในการ "เทรดรอบ" ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อน แต่ต้องใช้เครื่องมือพื้นฐานให้ "คม" เครื่องมือหลักที่ต้องใช้ (ซึ่งกล่าวถึงในบทความก่อนหน้า) ได้แก่:

1. Trend Line (เส้นแนวโน้ม): นี่คือ "เพื่อนแท้" อันดับ 1 กลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดคือการเทรดตาม "Uptrend" (แนวโน้มขาขึ้น)
2. Support & Resistance (แนวรับ-แนวต้าน): นี่คือ "แผนที่" ที่บอกว่า "พื้น" (จุดซื้อ) และ "เพดาน" (จุดขาย) อยู่ที่ไหน
3. Volume (ปริมาณการซื้อขาย): ใช้ "ยืนยัน" ว่าการ "ทะลุ" (Breakout) หรือ "การเด้ง" (Bounce) นั้น "จริง" หรือ "หลอก" (Volume ต้องสูงผิดปกติ)
4. Indicators (RSI/MACD): ไม่ได้ใช้เป็น "สัญญาณเข้า" หลัก แต่ใช้เป็น "สัญญาณยืนยัน" (Confirmation)
   • RSI: ในขาขึ้น Swing Trader จะรอซื้อเมื่อ RSI ย่อตัวลงมาใกล้โซน 40-50 (ไม่ใช่รอ 30)
   • MACD: ใช้สัญญาณ Golden Cross (ตัดขึ้น) เพื่อยืนยันการเริ่มต้น "รอบ" ใหม่

4. กลยุทธ์ "เทรดรอบ" (หาจังหวะ ซื้อ-ขาย 5-10%)

กลยุทธ์ของ Swing Trader คือการ "ทำการบ้าน" ในตอนกลางคืน (หลังเลิกงาน) เพื่อ "วางแผน" เมื่อเจอสัญญาณที่ใช่ ก็ "ตั้งคำสั่งซื้อ" (อาจตั้งล่วงหน้า หรือซื้อในเช้าวันถัดไป) และที่สำคัญที่สุด: "ตั้ง Stop Loss และ Take Profit (เป้าหมาย) ทันที"

มี 2 กลยุทธ์หลักที่นิยมใช้:

5. ความเสี่ยงที่ Swing Trader ต้องเจอ

ไม่มีกลยุทธ์ใดที่สมบูรณ์แบบ Swing Trading ก็มีความเสี่ยงที่ "แตกต่าง" จาก Day Trading

"ความเสี่ยงข้ามคืน" (Overnight Risk)

นี่คือ "ความเสี่ยงหลัก" ที่ Swing Trader ต้องยอมรับ (ในขณะที่ Day Trader ไม่มี) คือความเสี่ยงจาก "ข่าวร้าย" ที่เกิดขึ้นนอกเวลาทำการ (เช่น ดาวโจนส์ร่วงหนัก, สงคราม, ภัยพิบัติ) ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นในวันรุ่งขึ้น "เปิดกระโดดลง" (Gap Down) จนทะลุจุด Stop Loss ที่ตั้งไว้

วิธีจัดการ: การ "จำกัดขนาดไม้" (Position Sizing) ไม่ All-in ในหุ้นตัวเดียว และการมีวินัยใน Stop Loss อย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะต้องขาดทุนจาก Gap ก็ตาม

สรุป: จุดสมดุลของชีวิตและการลงทุน

Swing Trading คือกลยุทธ์ที่ "สมจริง" ที่สุดสำหรับ "มนุษย์เงินเดือน" ที่มีวินัย มันตัดความเครียดและความบ้าคลั่งของการ "เฝ้าจอ" ออกไป และแทนที่ด้วย "การวางแผน" และ "ความอดทน"

มันไม่ใช่กลยุทธ์ที่จะทำให้รวยในชั่วข้ามคืน แต่เป็นกลยุทธ์ที่ยั่งยืนในการสร้าง "กระแสเงินสด" (Cash Flow) จากตลาดหุ้น โดยที่ยังสามารถรักษา "งานประจำ" และ "สุขภาพจิต" ที่ดีไว้ได้

แหล่งอ้างอิง (References)

1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET). (2568). เลือกสไตล์การลงทุนที่ใช่คุณ. เข้าถึงได้จาก www.set.or.th
2. Settrade. (2568). Swing Trading Strategy. เข้าถึงได้จาก www.settrade.com
3. Carney, S. (2012). Harmonic Trading. (หนังสือที่อธิบายถึง "Swing" ของราคาในรูปแบบต่างๆ)

SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!

#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย

© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.