แชร์

"เทรดตามข่าว" (News Trading): ทำยังไงไม่ให้ "ติดดอย"? | SKE

IMG_2598.jpeg Miss Kaewthip
อัพเดทล่าสุด: 30 ต.ค. 2025
26 ผู้เข้าชม

"เทรดตามข่าว" (News Trading): ทำยังไงไม่ให้ "ติดดอย"? | SKE

ไม่มีอะไรที่กระตุ้น "ความโลภ" (Greed) และ "ความกลัวตกรถ" (FOMO) ของนักลงทุนรายย่อย ได้เท่ากับการเห็น "ข่าวดี" และ "แท่งเทียนสีเขียวยาว" พุ่งขึ้นพร้อมกัน

การ "เทรดตามข่าว" (News Trading) คือกลยุทธ์ที่ดูเหมือนง่ายที่สุด: "ข่าวดี = ซื้อ", "ข่าวร้าย = ขาย" แต่น่าเศร้าที่นี่คือ "กับดัก" ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น และเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้ "เม่าติดดอย" (Bag Holders) มากที่สุด

ทำไมการซื้อหุ้นทันทีที่ข่าว "กำไรพุ่ง" หรือ "ได้งานใหม่" ถึงมักจบลงด้วยการขาดทุน? บทความนี้จะเจาะลึกจิตวิทยามวลชนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ "Buy on Rumor, Sell on News" และกลยุทธ์ที่จะช่วยให้เทรดข่าวได้อย่างปลอดภัย


1. วัฏจักร 3 ระยะ ของ "ข่าว" (The News Lifecycle)

เพื่อที่จะไม่ "ติดดอย" ต้องเข้าใจก่อนว่า "เกม" นี้เล่นอย่างไร ตลาดหุ้นขับเคลื่อนด้วย "ข้อมูล" และ "ความคาดหวัง" วัฏจักรของข่าวมักมี 3 ระยะเสมอ:

ระยะที่ 1: "ข่าวลือ" (The Rumor / Accumulation) ระยะที่ 2: "ข่าวจริง" (The News / Distribution) ระยะที่ 3: "หลังข่าวออก" (The Aftermath)
ใครซื้อ: "คนวงใน" (Insiders), กองทุน, นักลงทุนรายใหญ่ (Smart Money)
ลักษณะ: ราคายังไม่ไปไหน แต่มี "Volume" แอบเก็บสะสมเงียบๆ (Accumulation) "ข่าวลือ" อาจเริ่มถูกปล่อยในวงปิด
ใครซื้อ: "นักลงทุนรายย่อย" (Retail / เม่า)
ใครขาย: "คนวงใน" (ที่ซื้อมาจากระยะที่ 1)
ลักษณะ: "ข่าวดี" ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ (เช่น ลง นสพ., ออกทีวี, แจ้งตลาด) ราคา "เปิดกระโดด" (Gap Up) และพุ่งแรง
ใครซื้อ: (ไม่มีแล้ว)
ใครขาย: รายย่อยที่ติดดอย (Panic Sell)
ลักษณะ: ราคาไหลลงอย่างรวดเร็ว (Fade) หลังจากที่ "คนวงใน" ขายของหมดแล้ว รายย่อยที่ซื้อในระยะที่ 2 จะ "ติดดอย" ทันที
"Buy on Rumor, Sell on News" (ซื้อเมื่อมีข่าวลือ, ขายเมื่อข่าวจริงออก)

นี่คือหัวใจของเกม มืออาชีพ (Smart Money) จะ "ซื้อ" ในระยะที่ 1 ตอนที่ข่าวยังไม่ชัดเจน และ "ขาย" ทำกำไรมหาศาลในระยะที่ 2 โดย "ขาย" ใส่มือนักลงทุนรายย่อย (เม่า) ที่กำลัง "FOMO" ไล่ซื้อตามข่าวที่เพิ่งเผยแพร่สู่สาธารณะ


2. ทำไมรายย่อยถึง "แพ้" เกมนี้เสมอ? (The Information Lag)

สาเหตุหลักที่ทำให้การ "เทรดตามข่าว" ของรายย่อยจบลงด้วยการ "ติดดอย" คือ "ความเร็วของข้อมูล" (Information Lag)

1. "ข่าว" ที่เราได้ยิน... คือ "ข่าวเก่า"

ต้องยอมรับความจริงว่า เมื่อข่าวถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะ (เช่น เว็บไซต์ข่าวหุ้น, Facebook, SET) ข่าวนั้นได้ "เก่า" ไปแล้วในโลกของสถาบันการเงิน

  • HFT (Robot Trade): ซื้อขายใน "เสี้ยววินาที" (Microseconds) ทันทีที่คำว่า "กำไร" ถูกจับได้ในระบบ
  • กองทุน/สถาบัน: ได้รับข้อมูล (เช่น บทวิเคราะห์) หรือเข้าประชุม (Analyst Meeting) "ก่อน" รายย่อย
  • รายย่อย: เห็นข่าวในสื่อ -> เปิดแอป Streaming -> ล็อกอิน -> กดซื้อ... ณ จุดนั้น ราคาได้ "สะท้อน" (Price In) ข่าวนั้นไปหมดแล้ว

2. ข่าวถูก "สร้าง" มาเพื่อ "ขายของ"

ในหลายกรณี (โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก) "ข่าวดี" ถูกจงใจปล่อยออกมาในจังหวะที่ "เจ้ามือ" หรือ "คนวงใน" ต้องการ "ปล่อยของ" (ขายหุ้น) ในราคาสูงสุด ข่าวจึงทำหน้าที่เป็น "เหยื่อล่อ" ที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อดึงดูดแรงซื้อจากรายย่อยให้เข้ามารับของต่อนั่นเอง

3. กับดักจิตวิทยา "FOMO"

การเห็นแท่งเทียนสีเขียวยาวพุ่งขึ้นต่อหน้าต่อตา กระตุ้นสมองส่วน "ความโลภ" (Greed) และ "ความกลัวตกรถ" (FOMO) ได้อย่างรุนแรง มันบีบให้เทรดเดอร์ "ละทิ้ง" แผนการทั้งหมด และกระโดดเข้า "ไล่ราคา" (Chasing the price) ที่จุดสูงสุด ซึ่งเป็นจุดที่ "ความเสี่ยง" สูงที่สุด และ "ผลตอบแทน" ต่ำที่สุด


3. กลยุทธ์ "เทรดตามข่าว" อย่างไรไม่ให้ "ติดดอย"?

เมื่อรู้ว่าการ "ไล่ข่าว" คือหายนะ แล้วรายย่อยควรทำอย่างไร? นี่คือ 3 กลยุทธ์ที่ปลอดภัย

กลยุทธ์ที่ 1: เป็น "นักลงทุน" ไม่ใช่ "นักเทรดข่าว"

  • แนวคิด: "ไม่สนใจ" ข่าวระยะสั้น แต่ใช้ข่าวเพื่อ "ยืนยัน" ปัจจัยพื้นฐาน
  • การกระทำ: หากถือหุ้น A เพราะ "พื้นฐานดี" อยู่แล้ว เมื่อมี "ข่าวดี" (เช่น กำไรโตตามคาด) ออกมา ก็ "ถือต่อไป" (Let Profit Run) แต่ถ้าข่าวดีนั้นทำให้ราคา "พุ่ง" เกินมูลค่า (Overvalue) ไปมาก ก็อาจเป็นจังหวะ "แบ่งขาย" ทำกำไร (Sell on News)
  • ข้อดี: ไม่เครียด, ไม่ต้องเฝ้าจอ, ไม่ติดกับดัก FOMO

กลยุทธ์ที่ 2: "รอ... รอ... และ รอ" (The 3-Day Rule)

  • แนวคิด: ยอม "ตกรถ" ในวันแรก เพื่อ "ความปลอดภัย" ข่าวดีมักจะดึงดูด "อารมณ์" (Emotional Traders) เข้ามาใน 1-2 วันแรก ให้รอ "ฝุ่นจาง" (Let the dust settle)
  • การกระทำ: "ห้าม" ซื้อในวันที่ข่าวออก (Day 0) หรือวันรุ่งขึ้น (Day 1) ให้อดทนรอ 2-3 วัน เพื่อดู "พฤติกรรมราคา" ที่แท้จริง
    • ถ้าราคา "ไหลกลับ" (Fade): แปลว่าข่าว "จบแล้ว" (Sell on News จริง) -> ยินดีด้วยที่ "ไม่ติดดอย"
    • ถ้าราคา "ย่อแล้วยืน" (Dip & Hold): ถ้าราคา "ย่อตัว" ลงมาสร้าง "ฐานใหม่" (เช่น ย่อมาที่แนวรับ) และ "ยืนได้" โดยไม่หลุด -> นี่คือสัญญาณว่าข่าวนั้น "จริง" และตลาดพร้อมจะไปต่อ (นี่คือจุด "Buy on Dip" ที่ปลอดภัย)

กลยุทธ์ที่ 3: "เทรดตามกราฟ" ไม่ใช่ "เทรดตามข่าว" (Trade the Chart, Not the News)

  • แนวคิด: ใช้ "ข่าว" เป็นเพียง "ตัวกระตุ้น" แต่ใช้ "กราฟเทคนิค" เป็น "สัญญาณซื้อ-ขาย"
  • การกระทำ: เมื่อข่าวดีออกมา ให้ "เปิดกราฟ" ดูทันที
    • กรณีที่ 1 (ควรซื้อ): ถ้าราคาพุ่งขึ้น "ทะลุ" (Breakout) "แนวต้าน" ที่สำคัญ (เช่น แนวต้านเดิม หรือ Downtrend Line) พร้อม "Volume" มหาศาล -> นี่คือสัญญาณว่า "แนวโน้มใหม่" ได้เริ่มต้นแล้ว อาจพิจารณา "ซื้อตาม" (Buy on Breakout) แต่ต้องมี Stop Loss ที่ "ใต้" แนวต้านที่เพิ่งทะลุมา
    • กรณีที่ 2 (ห้ามซื้อ): ถ้าราคาพุ่งขึ้นไป "ชน" "แนวต้าน" เดิม แล้ว "ไม่ผ่าน" (เกิดไส้เทียนยาวๆ ด้านบน) -> นี่คือสัญญาณ "Sell on News" ที่ชัดเจน "ห้าม" ซื้อเด็ดขาด
แล้ว "ข่าวร้าย" (Bad News) ล่ะ?

ให้ใช้หลักการ "ตรงกันข้าม" ที่เรียกว่า "Buy the Bad News"

เมื่อ "ข่าวร้าย" (เช่น ขาดทุนหนัก) ประกาศออกมา รายย่อยจะ "Panic Sell" ทำให้ราคาดิ่งเหว (Oversold) หากการดิ่งนั้นลงไปถึง "แนวรับ" ที่แข็งแกร่งมากๆ (เช่น แนวรับเดิมในกราฟ Month) และ "ปัจจัยพื้นฐาน" ของบริษัทยังไม่เสียหายถาวร... นั่นอาจเป็น "จุดซื้อ" ที่ดีที่สุด (Contrarian Investing)

สรุป

การ "เทรดตามข่าว" สำหรับรายย่อย เปรียบเหมือนการพยายามกระโดดขึ้น "รถไฟขบวนสุดท้าย" ที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด โอกาสที่จะ "ตกรถ" หรือ "ติดดอย" จึงมีสูงมาก

วิธีที่จะไม่ "ติดดอย" คือการเปลี่ยนบทบาทจาก "ผู้ไล่ตาม" (Chaser) มาเป็น "นักฉวยโอกาส" (Opportunist) ที่ "อดทนรอ" ให้ฝุ่นจาง หรือรอให้ราคาย่อตัวลงมาทดสอบ "แนวรับ" ที่มีนัยสำคัญ แล้วจึงเข้าซื้อเมื่อมี "สัญญาณยืนยัน" จากกราฟเทคนิค ไม่ใช่จาก "พาดหัวข่าว"


แหล่งอ้างอิง (References)

  1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET). (2568). จิตวิทยาการลงทุน (Investor Psychology). เข้าถึงได้จาก www.set.or.th
  2. Kirkpatrick, C. D., & Dahlquist, J. R. (2010). Technical Analysis: The Complete Resource for Financial Market Technicians. (อธิบายเรื่องการสะท้อนข่าวสารในราคา)
  3. Settrade. (2568). Buy on Rumor, Sell on Fact. เข้าถึงได้จาก www.settrade.com

SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!

บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)

(ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้ง Sungrow อย่างเป็นทางการ)

โทร: 045-905-215

เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th

Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon

LINE: @760fgpmx

#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย

© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.


IMG_2598.jpeg
Miss Kaewthip
Sharing management perspectives and strategies from direct experience as a Managing Director, with drive and determination inspired by Confucian philosophy.
บทความที่เกี่ยวข้อง
"ตั๋งโต๊ะ" ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
"เตียวเสี้ยน" และการอ่านใจ: การใช้ "จุดอ่อน" (ความใคร่) ของเป้าหมาย | SKE
เจาะลึก "เตียวเสี้ยน" (Diaochan) และ "กลสาวงาม" (Beauty Trap) วิเคราะห์จิตวิทยาการ "อ่านใจ" (Mind Reading) และการใช้ "จุดอ่อน" (ความใคร่, อัตตา) ของ ตั๋งโต๊ะ และ ลิโป้ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง
"ตั๋งโต๊ะ" ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
icon-whatsapp
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?
เริ่มแชท
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ