"จัดพอร์ต" (Portfolio) สำหรับเทรดเดอร์ (ต่างจาก VI ยังไง?) | SKE

"จัดพอร์ต" (Portfolio) สำหรับเทรดเดอร์ (ต่างจาก VI ยังไง?) | SKE
เมื่อพูดถึง "การจัดพอร์ต" (Portfolio Management) ภาพในหัวของคนส่วนใหญ่คือ "การกระจายความเสี่ยง" (Diversification) แบบคลาสสิก: ถือหุ้นธนาคาร 20%, พลังงาน 15%, ค้าปลีก 15%, และถือเงินสด 10% เพื่อรอจังหวะ
นั่นคือ "การจัดพอร์ต" ของ "นักลงทุนระยะยาว (Value Investor - VI)"
แต่สำหรับ "เทรดเดอร์" (Trader) โดยเฉพาะสายเทคนิค (TA) หรือ Swing Trader แนวคิดนี้ "ใช้ไม่ได้" และอาจ "เป็นอันตราย" ด้วยซ้ำ การ "จัดพอร์ต" ของเทรดเดอร์ไม่ได้หมายถึง "การกระจาย" สินทรัพย์ แต่หมายถึง "การบริหาร" ความเสี่ยงและเงินสด
บทความนี้จะเจาะลึกความแตกต่างสุดขั้วของ "พอร์ตโฟลิโอ" ระหว่างสองแนวทางนี้
1. "ป้อมปราการ" (The Fortress): พอร์ตของนักลงทุน (VI)
สำหรับนักลงทุน VI "พอร์ตโฟลิโอ" คือ "ธุรกิจ" ของพวกเขาเอง มันคือ "ป้อมปราการ" ที่สร้างขึ้นเพื่อ "ทนทาน" ต่อทุกสภาวะตลาดในระยะยาว
[Image of a diversified pie chart representing a VI portfolio]- ปรัชญา: "ซื้อเพื่อถือ" (Buy and Hold) และ "ซื้อกิจการ" (Buying a Business)
- เป้าหมายหลัก: "การกระจายความเสี่ยง" (Diversification)
- แนวคิด: "อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว" (Don't put all eggs in one basket) หากอุตสาหกรรมหนึ่งแย่ (เช่น ธนาคาร) อีกอุตสาหกรรม (เช่น โรงพยาบาล) จะยังช่วยพยุงพอร์ตไว้ได้
- เครื่องมือวัด: "% Allocation" (สัดส่วนการลงทุน) เช่น แบ่งเงิน 1 ล้านบาท เป็นหุ้น A 10%, หุ้น B 10%, หุ้น C 10%...
- สถานะ "เงินสด": ถือเงินสด "น้อยที่สุด" (อาจจะ 5-10%) เพราะเงินสดที่ไม่ได้ลงทุน คือ "เงินที่ตายแล้ว" (Dead Money) ที่ไม่สร้างผลตอบแทน
สรุปพอร์ต VI: คือการ "กระจาย" เงินทุนไปยัง "สินทรัพย์" (หุ้นดี) หลายๆ ตัว และ "อดทน" ถือยาว 5-10 ปี
2. "คลังกระสุน" (The Arsenal): พอร์ตของเทรดเดอร์ (Trader)
สำหรับเทรดเดอร์ (สาย TA, Swing Trade) "พอร์ตโฟลิโอ" คือ "คลังกระสุน" มันไม่ใช่ "ป้อมปราการ" ที่ต้องปกป้อง แต่คือ "กระสุน" ที่ต้อง "บริหาร" เพื่อใช้ยิงในจังหวะที่ดีที่สุด
[Image of a portfolio that is 90% Cash (Ammo) and 10% Active Trade (Risk)]- ปรัชญา: "ซื้อขายตามจังหวะ" (Market Timing) และ "บริหารความเสี่ยง" (Risk Management)
- เป้าหมายหลัก: "การรักษาเงินต้น" (Capital Preservation)
- แนวคิด: "จงใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว... แต่จงเฝ้าตะกร้าใบนั้นอย่างใกล้ชิด" (Put your eggs in one basket and watch that basket closely) Mark Twain (ดัดแปลงโดย Trend Followers)
- เครื่องมือวัด: "% Risk" (ความเสี่ยง) เช่น "กฎ 1-2%" (เสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของพอร์ต ต่อการเทรด 1 ครั้ง)
- สถานะ "เงินสด": "เงินสดคือราชา" (Cash is King) เงินสดคือ "สถานะ" (Position) ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด "พอร์ตของเทรดเดอร์" ในภาวะตลาดที่ไม่ชัดเจน อาจมี "เงินสด 90-100%"
สรุปพอร์ต Trader: คือการ "ถือเงินสด" (Ammo) ไว้เกือบทั้งหมด และ "แบ่ง" กระสุน (Position Sizing) ไป "เดิมพัน" (Trade) ในจังหวะที่ "ได้เปรียบ" (High Probability Setup) โดย "ควบคุม" การขาดทุน (Stop Loss) ไว้อย่างชัดเจน
3. เปรียบเทียบชัดๆ: VI vs Trader
| ปัจจัย | นักลงทุน (VI) | เทรดเดอร์ (Trader) |
|---|---|---|
| ปรัชญา | "ซื้อธุรกิจ" (Buy a Business) | "ซื้อจังหวะ" (Buy a Setup) |
| เป้าหมายหลัก | การกระจายความเสี่ยง (Diversification) | การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) |
| การถือครอง | ยาว (ปี) | สั้น (วัน, สัปดาห์) |
| ตัววัดหลัก | % Allocation (สัดส่วนหุ้นแต่ละตัว) | % Risk (ความเสี่ยงต่อไม้ เช่น กฎ 1-2%) |
| สถานะ "เงินสด" | คือ "ของเสีย" (Dead Money) ควรรีบนำไปลงทุน | คือ "ราชา" (King) เป็น "สถานะ" ที่ปลอดภัยที่สุด |
| การตัดสินใจ | ขึ้นอยู่กับ "พื้นฐาน" (FA) | ขึ้นอยู่กับ "จังหวะ" (TA) และ "คณิตศาสตร์" (MM) |
4. "พอร์ต" ของเทรดเดอร์ (โมเดล 3 ถัง)
เมื่อเทรดเดอร์ "จัดพอร์ต" พวกเขาไม่ได้คิดว่าจะ "ถือ" หุ้น 10 ตัว ตัวละ 10% แต่พวกเขาคิดแบบ "โมเดล 3 ถัง" นี้:
[Image of the 3 Buckets model: Cash, Active Trades, Core Portfolio]ถังที่ 1: "คลังกระสุน" (The "Ammo" - Cash)
- ขนาด: 70% - 100% ของพอร์ต
- หน้าที่: นี่คือ "สถานะปกติ" (Default State) ของเทรดเดอร์ คือ "เงินสด" ที่ปลอดภัยในพอร์ต รอคอย "จังหวะ" ที่ดีที่สุด (A+ Setup)
- จิตวิทยา: "การไม่เทรด" คือ "การเทรด" รูปแบบหนึ่ง (การถือเงินสด = การไม่ขาดทุน)
ถังที่ 2: "สนามรบ" (The "Active Trades" - Risk Capital)
- ขนาด: 0% -
Miss Kaewthip



