แชร์

จิตวิทยาการเทรด: ทำไม 90% ของเทรดเดอร์ถึง "เจ๊ง"? | SKE

IMG_2598.jpeg Miss Kaewthip
อัพเดทล่าสุด: 30 ต.ค. 2025
24 ผู้เข้าชม

จิตวิทยาการเทรด: ทำไม 90% ของเทรดเดอร์ถึง "เจ๊ง"? | SKE

มีสถิติที่โด่งดังในวงการเทรดเดอร์ที่เรียกว่า "90-90-90": 90% ของเทรดเดอร์มือใหม่ สูญเสียเงิน 90% ของพอร์ต ภายใน 90 วันแรก

คำถามคือ "ทำไม?" ทำไมคนฉลาด, ประสบความสำเร็จในอาชีพอื่น, ถึง "ล้มเหลว" (หรือ "เจ๊ง") อย่างไม่เป็นท่าในตลาดหุ้น? คำตอบนั้นน่าผิดหวังสำหรับคนที่กำลังตามหา "จอกศักดิ์สิทธิ์" (Holy Grail) ... เพราะปัญหา "ไม่ใช่" ที่ "ระบบเทรด" (System) หรือ "เทคนิค" (TA/FA)

ปัญหา 90% อยู่ที่ "จิตวิทยาการเทรด" (Trading Psychology)

ตลาดหุ้นคือ "กระจก" ที่สะท้อน "จุดอ่อน" ภายในจิตใจของเรา (ความโลภ, ความกลัว, อัตตา, ความหวัง) ได้ชัดเจนที่สุด การ "ล้างพอร์ต" ไม่ได้เกิดจากตลาด แต่เกิดจากการที่เทรดเดอร์ "ล้มเหลว" ในการ "ควบคุมตัวเอง"


1. "สมอง" คือศัตรู (ทำไมสมองเราไม่เหมาะกับการเทรด)

สมองของมนุษย์ถูกวิวัฒนาการมาหลายล้านปีเพื่อ "การอยู่รอด" (Survival) ไม่ใช่ "การบริหารความน่าจะเป็น" (Probability Management)

  • สมองของเราถูกสร้างมาให้ "หนี" จากความเจ็บปวด (เช่น การขาดทุน)
  • สมองของเราถูกสร้างมาให้ "วิ่งไล่" ความสุข (เช่น การรีบขายทำกำไร)
  • สมองของเรา "เกลียด" ความไม่แน่นอน (Uncertainty) และพยายาม "หาแบบแผน" (Patterns) แม้ในที่ที่ไม่มี (เช่น การเดาสุ่ม)

ในขณะที่ "การเทรดที่ประสบความสำเร็จ" ต้องการสิ่งที่ "ตรงกันข้าม" ทั้งหมด: เราต้อง "ยอมรับ" การขาดทุนเล็กน้อย, "อดทน" ถือการทำกำไร, และ "ยอมรับ" ว่าเรา "ควบคุม" ตลาดไม่ได้


2. 4 "ขุนพลมรณะ" (The 4 Horsemen) ที่ทำให้ "เจ๊ง"

เทรดเดอร์ 90% ที่ล้มเหลว ถูกควบคุมโดย "อารมณ์" 4 ตัวนี้ ซึ่งนำไปสู่ "พฤติกรรม" ที่ทำลายล้างพอร์ต

อารมณ์ (Emotion) พฤติกรรมที่นำไปสู่การ "เจ๊ง" (Failing Behavior)
1. ความโลภ (Greed)
  • "All-in" (ทุ่มสุดตัว): ละทิ้ง MM เพราะ "มั่นใจ" ว่าไม้เดียวจะรวย
  • "ไล่ราคา" (Chasing Price / FOMO): กลัวตกรถ กระโดดซื้อที่ "ยอดดอย"
  • "โลภเกินไป" (Over-Leverage): ใช้ Margin หรือ Leverage สูงเกินตัว
2. ความกลัว (Fear)
  • "Panic Sell": ตกใจ "ขาย" ทิ้งที่ "ก้นเหว" เพราะทนเห็นพอร์ตแดงไม่ไหว
  • "ขายหมู" (Selling Too Early): รีบขายทำกำไร +5% เพราะ "กลัว" กำไรจะหาย (กลัว Loss Aversion)
  • "กลัวที่จะเทรด" (Hesitation): เห็นสัญญาณชัดเจน แต่ "ไม่กล้า" กดซื้อ เพราะเพิ่งขาดทุนมา
3. ความหวัง (Hope)
(อันตรายที่สุด!)
  • "เลื่อน Stop Loss": "ความหวัง" ว่า 'เดี๋ยวมันก็เด้ง' ทำให้ "เลื่อน" จุดยอมแพ้หนีลงไปเรื่อยๆ
  • "ถัวเฉลี่ยขาลง" (Averaging Down): ซื้อเพิ่มในหุ้นที่ขาดทุน "หวัง" ว่าต้นทุนจะต่ำลง (การโยนเงินดีไล่ตามเงินเลว)
  • "ไม่ยอมรับ" (Denial): ไม่ยอม "ตัดขาดทุน" (Cut Loss) เพราะการขายคือการ "จบสิ้น" ความหวัง
4. อัตตา (Ego)
  • "เทรดล้างแค้น" (Revenge Trading): "โกรธ" ตลาดที่ทำให้ขาดทุน จึงรีบ All-in เพื่อ "เอาคืน"
  • "ฉันถูกเสมอ" (Inability to be Wrong): ไม่ยอมรับว่า "แผน" ผิดพลาด ยึดติดว่า "การวิเคราะห์" ของตนต้องถูก
  • "โทษ" (Blaming): โทษตลาด, โทษเจ้ามือ, โทษข่าว (โทษทุกอย่าง ยกเว้น "ตัวเอง")

3. 3 "พฤติกรรม" ทำลายล้าง (The Terminal Sins)

เมื่อ "อารมณ์" (ข้อ 2) เข้าควบคุม มันจะแสดงออกมาเป็น 3 "พฤติกรรม" หลัก ที่นำไปสู่การ "ล้างพอร์ต" โดยตรง

1. การ "Revenge Trading" (อัตตา + ความโกรธ)

การขาดทุนหนัก -> รู้สึกโกรธ/โดนดูถูก -> "ต้องเอาคืนเดี๋ยวนี้!" -> เพิ่ม Position Size เป็น 2 เท่า (All-in) -> ละทิ้งกฎ Stop Loss -> ขาดทุนหนักกว่าเดิม (ล้างพอร์ต)

2. การ "Averaging Down" (ความหวัง + อัตตา)

ซื้อที่ 100 บาท -> ราคาลงไป 80 บาท (ขาดทุน) -> แทนที่จะ Stop Loss กลับ "ซื้อเพิ่ม" (เพราะอัตตาบอกว่าเราไม่ผิด) -> ราคาลงไป 60 บาท -> "ซื้อเพิ่ม" อีก (เพราะหวังว่าต้นทุนจะต่ำ) -> ราคาลงไป 40 บาท (ล้างพอร์ต)

3. การ "ละทิ้ง MM" (ความโลภ + FOMO)

ระบบเทรดปกติ (กฎ 1%) ชนะมา 5 ครั้งติด -> รู้สึก "มั่นใจ" (Overconfidence) -> ครั้งที่ 6 เห็นสัญญาณ "สวยมาก" -> "โลภ" อยากรวยเร็ว -> "All-in" (ทิ้งกฎ MM) -> ครั้งที่ 6 "แพ้" (ซึ่งเป็นเรื่องปกติ) -> ขาดทุนครั้งเดียว "หนักกว่า" ที่กำไรมา 5 ครั้งรวมกัน (ล้างพอร์ต)


4. "วิธีคิด" ของคน 10% (The Winner's Mindset)

แล้วเทรดเดอร์ 10% ที่ "รอด" และ "กำไร" อย่างยั่งยืน พวกเขาคิดต่างกันอย่างไร?

พวกเขา "ไม่" ได้แม่นกว่า 90% (Win Rate อาจจะแค่ 40-50%) แต่พวกเขา "เชี่ยวชาญ" ในการ "ควบคุม" อารมณ์ 4 ตัวนั้น พวกเขา "คิด" แบบ "คาสิโน" ไม่ใช่ "นักพนัน"

"วิธีคิด" ของเทรดเดอร์ 10%
  1. ยอมรับความไม่แน่นอน (Accept Randomness): พวกเขารู้ว่า "ทุกการเทรด" มีโอกาส "แพ้" (Even A+ Setups fail) พวกเขาจึงไม่ "คาดหวัง" แต่ "เตรียมพร้อม" (ด้วย Stop Loss)
  2. คิดแบบ "ความน่าจะเป็น" (Think in Probabilities): พวกเขาไม่สน "ผลลัพธ์" ของการเทรด "ครั้งนี้" (Trade-by-trade) แต่สน "ผลลัพธ์" ของการเทรด 1,000 ครั้ง (The "Edge")
  3. บูชา "Money Management" (Worship MM): พวกเขาคือ "ผู้จัดการความเสี่ยง" (Risk Managers) ไม่ใช่นักเทรด (Traders) ภารกิจแรกคือ "รักษาเงินต้น" (Capital Preservation) ภารกิจที่สองคือ "ทำกำไร"
  4. มี "วินัย" ที่สมบูรณ์แบบ (Discipline): พวกเขามี "แผนการเทรด" (Trading Plan) และ "ทำตามแผน" นั้น 100% ไม่ว่า "อารมณ์" จะบอกให้ทำตรงกันข้ามแค่ไหนก็ตาม (Mechanical Execution)

สรุป

ตลาดหุ้นคือ "สนามรบ" ที่ศัตรูที่แท้จริงไม่ใช่ "เจ้ามือ" หรือ "ข่าว" แต่คือ "ตัวเราเอง" ที่อยู่ในกระจก

90% ของเทรดเดอร์ "เจ๊ง" เพราะพวกเขาพยายาม "ควบคุม" ตลาด (ซึ่งควบคุมไม่ได้) และ "ละเลย" ที่จะ "ควบคุม" ตัวเอง (สิ่งเดียวที่ควบคุมได้)

การเทรดที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่การ "ค้นหา" เทคนิคที่ชนะ 100% แต่คือการ "สร้าง" Mindset ที่สามารถ "ยอมรับ" การขาดทุนเล็กน้อยได้อย่างไร้ความรู้สึก และ "อดทน" ถือการทำกำไรครั้งใหญ่ได้อย่างไร้อารมณ์


แหล่งอ้างอิง (References)

  1. Douglas, M. (2000). Trading in the Zone. (หนังสือ "ไบเบิ้ล" ด้านจิตวิทยาการเทรด ที่อธิบายแนวคิดเรื่องการยอมรับความเสี่ยง)
  2. Kahneman, D. (2011). Thinking, Fast and Slow. (อธิบายการทำงานของสมองที่นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด)
  3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET). (2568). จิตวิทยาและวินัยในการลงทุน. เข้าถึงได้จาก www.set.or.th

SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!

บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)

(ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้ง Sungrow อย่างเป็นทางการ)

โทร: 045-905-215

เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th

Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon

LINE: @760fgpmx

#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย

© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.


IMG_2598.jpeg
Miss Kaewthip
Sharing management perspectives and strategies from direct experience as a Managing Director, with drive and determination inspired by Confucian philosophy.
บทความที่เกี่ยวข้อง
"ตั๋งโต๊ะ" ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
"เตียวเสี้ยน" และการอ่านใจ: การใช้ "จุดอ่อน" (ความใคร่) ของเป้าหมาย | SKE
เจาะลึก "เตียวเสี้ยน" (Diaochan) และ "กลสาวงาม" (Beauty Trap) วิเคราะห์จิตวิทยาการ "อ่านใจ" (Mind Reading) และการใช้ "จุดอ่อน" (ความใคร่, อัตตา) ของ ตั๋งโต๊ะ และ ลิโป้ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง
"ตั๋งโต๊ะ" ในที่ทำงาน: เผด็จการ 101 (และจุดจบของเขา) | SKE
เจาะลึก "ตั๋งโต๊ะ" (Dong Zhuo) ในที่ทำงาน "ผู้นำเผด็จการ" (Dictator Boss) ที่ใช้ "ความกลัว" (Hard Power) ปกครอง วิเคราะห์บทเรียนจิตวิทยา และ "จุดจบ" ที่ล่มสลาย
icon-whatsapp
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?
เริ่มแชท
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ