ทำไมเราถึง "ขายหมู" ตลอด? (จิตวิทยาการ "ถือทนรวย" ไม่เป็น) | SKE

ทำไมเราถึง "ขายหมู" ตลอด? (จิตวิทยาการ "ถือทนรวย" ไม่เป็น) | SKE
มี "ความเจ็บปวด" สองรูปแบบในตลาดหุ้น: หนึ่งคือ "การตัดขาดทุน" (Stop Loss) และสองคือ "การขายหมู" (Selling Too Early)
สำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ การ "ขายหมู" ดูเหมือนจะเป็น "ปัญหาเล็ก" (อย่างน้อยก็ "กำไร") แต่ในความเป็นจริง มันคือ "พฤติกรรม" ที่ "อันตราย" ที่สุด ที่ "รับประกัน" ว่าพอร์ตของคุณจะ "ไม่มีวันโต" ในระยะยาว
ทำไม? เพราะ "คณิตศาสตร์" ของการเทรดนั้นชัดเจน: การ "ขาดทุนหนัก" (Big Loss) เพียง 1 ครั้ง สามารถ "ล้าง" กำไรเล็กๆ (Small Wins) ที่สะสมมา 10 ครั้งได้ทั้งหมด
การ "ขายหมู" คือการ "ปฏิเสธ" กำไรคำโต (Big Wins) และเลือกที่จะเก็บแค่ "กำไรคำเล็ก" (Small Wins) ซึ่งทำให้ "สมการ" การเทรด (Risk/Reward Ratio) ติดลบในระยะยาว
คำถามคือ... ทำไมสมองของเราถึง "เก่ง" ในการ "ทนดอย" (ถือหุ้นขาดทุน) แต่กลับ "ห่วย" ในการ "ทนรวย" (ถือหุ้นกำไร)? บทความนี้จะเจาะลึก "จิตวิทยา" ที่อยู่เบื้องหลัง และ "วิธีแก้" ที่เป็นรูปธรรม
1. "Prospect Theory": สมองที่ "ตั้งโปรแกรม" มาให้ "ขายหมู"
การ "ขายหมู" ไม่ใช่ "ความโง่" แต่มันคือ "สัญชาตญาณ" ที่ฝังลึกในสมองมนุษย์ Daniel Kahneman (ผู้ได้รับรางวัลโนเบล) ได้อธิบายสิ่งนี้ไว้ใน "Prospect Theory"
ทฤษฎีนี้ชี้ว่า สมองของเรา "ไร้เหตุผล" อย่างเป็นระบบ เมื่อต้อง "ตัดสินใจ" ภายใต้ความเสี่ยง
"Loss Aversion": สมอง "เกลียด" การสูญเสีย (มากกว่า "รัก" การได้มา)สมอง "เจ็บปวด" จากการ "สูญเสีย 1,000 บาท" มากกว่า "มีความสุข" จากการ "ได้กำไร 1,000 บาท" ถึง 2 เท่า!
เมื่อ "Loss Aversion" มาเจอกับ "การเทรด" หายนะทางจิตวิทยาก็บังเกิด:
| สถานการณ์ | สมองส่วน "อารมณ์" สั่งการ (ผิดพลาด) | ผลลัพธ์ (พฤติกรรม "ขายหมู") |
|---|---|---|
| สถานการณ์ A: "มีกำไร" (กำไร +10% ยังไม่ขาย) |
"ฉัน 'กลัว' (Fear) ว่ากำไร 10% ที่ 'ยังไม่ขาย' (Unrealized) นี้จะ 'หายไป'!" (นี่คือ Loss Aversion) "ฉัน 'ต้องการ' (Greed) 'กำไรที่แน่นอน' (Certainty) เดี๋ยวนี้" |
"ขายหมู" (Cut Winners Short) สมองเลือก "ความสุขเล็กน้อยที่แน่นอน" (กำไร 10%) เพื่อ "หนี" จาก "ความเจ็บปวด" (ที่อาจจะกำไรหาย) |
| สถานการณ์ B: (เปรียบเทียบ) "ขาดทุน" (ขาดทุน -10% ยังไม่ขาย) |
"ฉัน 'เกลียด' การ 'ขาดทุนที่แน่นอน' (Certain Loss) (การ Stop Loss มันเจ็บปวด)" "ฉันจึงเลือก 'ความไม่แน่นอน' ที่มาพร้อม 'ความหวัง' (Hope) ว่า 'เดี๋ยวมันก็เด้ง'" |
"ทนดอย" (Let Losers Run) สมองเลือก "ความหวัง" (ที่มักจบด้วยการขาดทุนหนักกว่าเดิม) เพื่อ "หลีกเลี่ยง" "ความเจ็บปวดเล็กน้อยที่แน่นอน" |
2. 3 "ปีศาจ" ที่กระซิบให้ "ขายหมู"
นอกเหนือจาก Loss Aversion ยังมี "อคติ" (Bias) อื่นๆ ที่บังคับให้เราขายเร็วเกินไป
1. "อัตตา" และ "ความเสพติด" การ "ถูก" (Ego / Addiction to being Right)
การกด "ขาย" แล้ว "กำไร" (แม้จะแค่ 1%) ทำให้สมองหลั่ง "โดปามีน" (Dopamine) มัน "รู้สึกดี" ที่ "ทายถูก" เทรดเดอร์จำนวนมาก "เสพติด" "ความรู้สึก" นี้ พวกเขาจึง "ขายหมู" บ่อยๆ เพื่อ "ป้อน" โดปามีนให้สมอง โดยไม่สนใจว่า "คณิตศาสตร์" (R/R) ของพอร์ตกำลัง "พัง"
2. "ความกลัว" จาก "เสียงรบกวน" (Fear of Market Noise)
ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ราคา "ไม่" ได้วิ่งขึ้นเป็นเส้นตรง มัน "ย่อตัว" (Pullback) เสมอ
มือใหม่ (ที่ "กลัว" กำไรหาย) จะ "ทน" การย่อตัว "ปกติ" (Normal Dip) ไม่ได้ พวกเขาเห็น "แท่งแดง" 1-2 แท่ง ก็ "Panic Sell" ทันที... และนั่นมักจะเป็น "จุดย่อซื้อ" (Buy on Dip) ที่ดีที่สุด ก่อนที่ราคาจะวิ่งต่อ
3. "ความแค้น" จากอดีต (Recency Bias)
เทรดเดอร์อาจจะเคยมี "ประสบการณ์เลวร้าย" (Trauma) ที่ "กำไรทิพย์" (เช่น เคยกำไร +30% แต่ไม่ขาย จนร่วงกลับมา "เท่าทุน")
สมองจะ "จดจำ" ความเจ็บปวดนั้น และ "สาบาน" ว่า "ครั้งหน้า... จะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก"
ผลลัพธ์: ในการเทรดครั้งต่อไป แค่กำไร +10% สมองก็จะ "กรีดร้อง" ให้นึกถึง "ความเจ็บปวด" นั้น และ "บังคับ" ให้ "ขายหมู" ทันที
3. "วิธีแก้" (The Cure): เปลี่ยน "อารมณ์" เป็น "ระบบ"
เมื่อรู้ว่า "ศัตรู" คือ "สัญชาตญาณ" ของเราเอง ทางแก้เดียวคือ "ห้าม" เทรดด้วย "สัญชาตญาณ" (Feeling) แต่ให้เทรดด้วย "ระบบ" (System) ที่ "ไร้อารมณ์"
วิธีที่ 1 (ดีที่สุด): "Trailing Stop" (จุดตัดขาดทุนแบบเลื่อนตาม)
นี่คือ "อาวุธ" ที่ดีที่สุดในการ "บังคับ" ให้ "ถือทนรวย" (Let Profit Run)
การทำงานของ Trailing Stop:มันคือ "ตาข่ายนิรภัย" ที่ "เลื่อนขึ้น" ตามราคา แต่ "ไม่เลื่อนลง"
- ซื้อที่ 100 บาท (ตั้ง Trailing Stop 10% -> Stop อยู่ที่ 90 บาท)
- ราคาขึ้นไป 120 บาท -> Stop "เลื่อนตาม" ขึ้นมาที่ 108 บาท (ล็อคกำไร 8%)
- ราคาขึ้นไป 150 บาท -> Stop "เลื่อนตาม" ขึ้นมาที่ 135 บาท (ล็อคกำไร 35%)
ผลลัพธ์: "ระบบ" จะ "บังคับ" ให้ถือหุ้นผ่าน "การย่อตัว" เล็กๆ น้อยๆ และจะ "ขาย" ก็ต่อเมื่อ "แนวโน้ม" (Trend) เสียหายจริงๆ เท่านั้น มันช่วย "กำจัด" อารมณ์ "กลัวกำไรหาย" ออกไป
วิธีที่ 2: "เทรดตามเส้นแนวโน้ม" (Trend Line / MA)
นี่คือการสร้าง "กฎ" (Rule-Based Exit) ที่ "ไร้อารมณ์" ขึ้นมาแทน "ความรู้สึก"
- กฎ: "ฉันจะ 'ไม่' ขายหุ้นตัวนี้... ตราบใดที่ราคา 'ยังไม่ปิด' ต่ำกว่า 'เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน' (EMA 50-Day)"
- ผลลัพธ์: กฎนี้จะ "บังคับ" ให้ "ทน" ต่อ "เสียงรบกวน" (Noise) ระหว่างวัน และโฟกัสที่ "ภาพใหญ่" (The Big Trend) เท่านั้น การ "ขายหมู" จะไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่แนวโน้มยังอยู่
วิธีที่ 3: "ตั้งเป้าหมาย R/R" (Pre-defined R:R)
ก่อน "ซื้อ" ให้ "วัด" ความคุ้มค่า (Risk/Reward Ratio) ก่อน
- แผน: ซื้อที่ 100 บาท (Stop Loss 95 บาท = Risk 5 บาท)
- เป้าหมาย (R:R 1:3): 5 บาท x 3 = 15 บาท -> เป้าหมาย (Reward) คือ 115 บาท
- กฎ: "ห้าม" ขาย "ก่อน" ถึง 115 บาท (เว้นแต่จะโดน Stop Loss ก่อน)
- ผลลัพธ์: นี่คือการ "ล็อค" จิตใจไว้กับ "คณิตศาสตร์" (Math) แทน "อารมณ์" (Emotion) ช่วยป้องกันการขายที่ +5% (110 บาท)
สรุป
การ "ขายหมู" คือ "พฤติกรรม" ที่เกิดจาก "ความกลัว" (Fear) ที่ฝังลึกว่า "กำไรจะหาย" (Loss Aversion) ในขณะที่ "การทนดอย" เกิดจาก "ความหวัง" (Hope) ว่า "เดี๋ยวมันก็เด้ง"
เทรดเดอร์ 90% "ทำตาม" อารมณ์เหล่านี้ จึง "ขาดทุน"
เทรดเดอร์ 10% "เข้าใจ" อารมณ์เหล่านี้ และ "สร้างระบบ" (Stop Loss, Trailing Stop) ขึ้นมาเพื่อ "ต่อต้าน" มัน
การจะ "ถือทนรวย" ได้สำเร็จ ต้อง "เปลี่ยน" Mindset จาก "การพยายามทายถูก" (Being Right) มาเป็น "การทำตามระบบ" (Following the System)
แหล่งอ้างอิง (References)
- Kahneman, D. (2011). Thinking, Fast and Slow. (ต้นกำเนิด Prospect Theory, Loss Aversion)
- Douglas, M. (2000). Trading in the Zone. (หนังสือ "ไบเบิ้ล" ด้านจิตวิทยาการเทรด การยอมรับความเสี่ยง)
- Covel, M. W. (2009). Trend Following. (อธิบายแนวคิดการ Let Profit Run)
SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
(ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้ง Sungrow อย่างเป็นทางการ)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @760fgpmx
#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย
© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.
Miss Kaewthip



