"Peak Shaving" อัจฉริยะ: SH25T (เทียบกับ Huawei) ใคร "ตัดยอดพีค" ได้เนียนและแม่นยำกว่ากัน?

สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม "Demand Charge" หรือค่าความต้องการพลังงานไฟฟ้า คือ "ฝันร้าย" ประจำเดือน มันคือค่าปรับที่คิดจาก "ช่วงเวลา 15 นาทีที่โรงงานใช้ไฟสูงสุดเพียงครั้งเดียว" ไม่ว่าคุณจะใช้ไฟหนักแค่ไหนใน 15 นาทีนั้น คุณต้องจ่ายค่าปรับนั้นไปตลอดทั้งเดือน การ "ฆ่า" พีคนี้ให้ได้ จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของการบริหารต้นทุนพลังงาน

อินเวอร์เตอร์ไฮบริด 3 เฟสเกรด C&I อย่าง Sungrow SH25T และคู่แข่งอย่าง Huawei (เช่น ซีรีส์ KTL-M1/MB0) ต่างก็มีฟังก์ชัน "Peak Shaving" (การตัดยอดพีค) ที่ซับซ้อน แต่คำถามคือ... ใครทำได้ "เนียน" (ตอบสนองได้ราบรื่น) และ "แม่นยำ" (ไม่ให้พีคเล็ดลอด) กว่ากัน?

บทความนี้ SKE จะมาเปรียบเทียบปรัชญาการออกแบบที่แตกต่างกันของสองยักษ์ใหญ่นี้

1. เจาะลึก "ศัตรู": Demand Charge คืออะไร?

ก่อนจะรู้ว่าใครเก่งกว่า เราต้องรู้จักศัตรูก่อน Demand Charge คือ "ค่าปรับ" ที่การไฟฟ้าฯ (กฟภ./กฟน.) เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ (เช่น โรงงาน) เพื่อเป็น "ค่าความพร้อม" ของโครงสร้างพื้นฐาน ที่พวกเขาต้องเตรียมไว้รองรับ "การใช้ไฟสูงสุด" ของคุณ

กลไกการคิดเงินที่โหดร้าย:

• การไฟฟ้าฯ จะ "จับตาดู" การใช้ไฟของโรงงานคุณตลอดเวลา โดยวัดค่าเฉลี่ย "ทุกๆ 15 นาที"
• ช่วงเวลา 15 นาทีใดก็ตามที่โรงงานของคุณ "ใช้ไฟหนักที่สุด" ในเดือนนั้น (เช่น ตอน 10.00 น. ที่เครื่องจักรใหญ่ 5 ตัวสตาร์ทพร้อมกัน) จะถูกบันทึกค่าไว้เป็น "Peak Demand" (kW) ประจำเดือน
• คุณจะถูกเรียกเก็บเงินจากค่า Peak Demand นี้ (เช่น อัตรา 200 บาท x จำนวน kW สูงสุด) แม้ว่าคุณจะใช้ไฟพีคขนาดนั้นแค่ 15 นาทีเดียวตลอดทั้งเดือนก็ตาม!

นี่คือ "ต้นทุนพลังงาน" ที่เจ็บปวด เพราะมันเกิดขึ้นเพียงชั่ววูบ แต่สร้างภาระค่าใช้จ่ายไปตลอดทั้งเดือน

2. สมรภูมิ "Peak Shaving": กลไกการ "ตัดยอด"

"Peak Shaving" คือกลยุทธ์การใช้แบตเตอรี่ (ESS) เพื่อ "ตัด" หรือ "โกน" ยอดพีคที่แหลมคมนั้นทิ้งไป

กระบวนการทำงาน:

1. ตั้งค่า "เพดาน" (Demand Limit): วิศวกร SKE จะวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟของโรงงาน และตั้งค่า "เพดานการดึงไฟ" ที่ปลอดภัยในระบบ EMS ของอินเวอร์เตอร์ (เช่น "ห้ามดึงไฟจากการไฟฟ้าเกิน 300 kW")
2. "ดวงตา" เฝ้าระวัง (Smart Meter): Smart Meter (DTSU) ที่จุดเชื่อมต่อจะ "จับตาดู" การดึงไฟจาก Grid ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ (ระดับมิลลิวินาที)
3. "สัญญาณพีค" เกิดขึ้น: เมื่อเครื่องจักรในโรงงานเริ่มทำงานพร้อมกัน ทำให้การดึงไฟรวมพุ่งสูงขึ้นและ "กำลังจะเกิน" เพดาน 300 kW ที่ตั้งไว้...
4. "สมองกล" สั่งการ (EMS Response): EMS ของอินเวอร์เตอร์จะสั่งการไปยังแบตเตอรี่ ให้ "จ่ายไฟ (Discharge)" ออกมาทันที
5. การ "ตัดยอด" สำเร็จ: เช่น หากโรงงานต้องการไฟ 320 kW ระบบจะดึงไฟจาก Grid แค่ 300 kW (ตามเพดาน) และดึงส่วนต่างอีก 20 kW มาจากแบตเตอรี่โดยตรง!

ผลลัพธ์คือ การไฟฟ้าฯ จะ "มองไม่เห็น" ค่าพีค 320 kW แต่จะเห็นแค่ 300 kW ทำให้ค่า Demand Charge ของโรงงานในเดือนนั้น "ต่ำ" กว่าที่ควรจะเป็นอย่างมหาศาล

3. ยกที่ 1: ความแม่นยำ (Accuracy) สมองกล AI vs สมองกลโปรแกรม

ความแม่นยำในการทำ Peak Shaving ขึ้นอยู่กับ "ดวงตา" (Smart Meter) และ "สมอง" (EMS)

• Huawei: ชูจุดเด่นเรื่อง AI-Powered EMS (FusionSolar) ที่สามารถ "เรียนรู้" (Machine Learning) รูปแบบการใช้ไฟ (Load Profile) ของโรงงาน เพื่อ "คาดการณ์" (Predict) การเกิดพีคได้ล่วงหน้า และเตรียมแบตเตอรี่ให้พร้อม นี่คือการบริหารจัดการเชิงรุก (Proactive)
• Sungrow: ใช้ EMS ที่ตั้งโปรแกรมได้ (Programmable EMS) ที่แม่นยำสูง สามารถตั้งค่า "Time of Use" และ "Demand Limit" ได้อย่างละเอียด ควบคุมการทำงานตามตรรกะที่กำหนดไว้ (Logic-based)

ผลการเปรียบเทียบ (ความแม่นยำ): เสมอกัน (Draw)

ในด้าน "ความแม่นยำ" ของการวัดและการตั้งค่าเพดาน ทั้งสองแบรนด์ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดของอุตสาหกรรม (Top-Tier) และใช้ Smart Meter ที่มีความเที่ยงตรงสูงเหมือนกัน แม้ Huawei จะมี AI ช่วยคาดการณ์ แต่ Sungrow ก็มีระบบ EMS ที่ตั้งโปรแกรมได้แม่นยำและเชื่อถือได้สูงมาก ผลลัพธ์ในแง่ความแม่นยำจึงไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

4. ยกที่ 2 (ตัดสิน): ความ "เนียน" (Response Speed) - ใครรับมือ "พีคกะทันหัน" ได้ดีกว่า?

นี่คือสมรภูมิที่แท้จริง! "พีค" ในโรงงานไม่ได้ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้น แต่มัน "พุ่งพรวด" ขึ้นมาในเสี้ยววินาที (เช่น ตอนที่มอเตอร์ขนาดใหญ่, ปั๊มน้ำ, หรือคอมเพรสเซอร์แอร์ "สตาร์ท" พร้อมกัน)

ความท้าทายคือ: อินเวอร์เตอร์ต้อง "ตอบสนอง" เร็วแค่ไหน ถึงจะ "ตัด" ยอดพีคนี้ได้ "ก่อน" ที่มิเตอร์ของการไฟฟ้าฯ จะบันทึกค่าเฉลี่ย 15 นาทีได้ทัน?

อาวุธลับของ Sungrow SH25T: "ความเร็ว" ระดับ UPS (<10ms)

จุดแข็งที่สุดของ Sungrow SH25T ที่ถูกออกแบบมาในระดับฮาร์ดแวร์ คือ "ความเร็วในการสลับโหมด" ที่ใช้ในฟังก์ชัน Backup Power

• Response Time: สามารถสลับจากโหมดปกติไปจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ได้ภายในเวลา น้อยกว่า 10 มิลลิวินาที (<10ms)
• การประยุกต์ใช้กับ Peak Shaving: ความเร็วระดับ "ไมโคร" นี้ ไม่ได้มีประโยชน์แค่ตอนไฟดับ แต่มันหมายความว่า เมื่อ Smart Meter ตรวจพบการ "กระชาก" ไฟที่กำลังจะเกิดพีค อินเวอร์เตอร์ SH25T สามารถ "ตอบสนอง" และ "อัด" ไฟจากแบตเตอรี่ (ด้วยกำลังสูงสุดถึง 25kW) เข้าไปในระบบได้ "ทันที"
• ความ "เนียน": การตอบสนองที่รวดเร็วนี้ ทำให้การดึงไฟจาก Grid "ราบเรียบ" และ "เนียน" มาก แม้ว่าโหลดภายในจะกระชากก็ตาม มัน "ตัด" พีคที่แหลมคม (Transient Spikes) ได้อย่างเด็ดขาด ก่อนที่มิเตอร์ 15 นาทีของการไฟฟ้าฯ จะบันทึกค่าได้

จุดแข็งของ Huawei: "ความฉลาด" ของ Ecosystem

Huawei (เช่น KTL-M1/MB0) ก็มีความเร็วในการตอบสนองระดับมิลลิวินาทีเช่นกัน แต่จุดขายหลักไม่ใช่ความเร็วระดับ UPS เหมือน Sungrow

• กลยุทธ์หลัก: Huawei เน้น "ความฉลาด" ของ EMS ที่ทำงานร่วมกับ Optimizer และแบตเตอรี่ LUNA2000 ระบบ FusionSolar จะพยายาม "คาดการณ์" (Predict) การเกิดพีคจากพฤติกรรมที่เรียนรู้ และ "เตรียม" แบตเตอรี่ไว้ล่วงหน้า เป็นการบริหารจัดการเชิงรุก (Proactive)
• ข้อควรพิจารณา: การคาดการณ์นั้นยอดเยี่ยมสำหรับ "พีคที่เกิดซ้ำๆ" (เช่น พักเที่ยง) แต่สำหรับ "พีคที่เกิดขึ้นกะทันหัน" (Unpredictable Spikes) ระบบก็ยังต้องพึ่งพา "ความเร็วในการตอบสนอง" อยู่ดี

ผลการเปรียบเทียบ (ความเนียน/ความเร็ว): Sungrow SH25T (Winner)

หากวัดกันที่ "ปฏิกิริยาตอบสนองต่อพีคกะทันหัน" (Reactive Peak Shaving) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยและคาดเดาไม่ได้ในโรงงาน, ความเร็วระดับ <10ms ของ Sungrow SH25T ถือเป็น "อาวุธ" ที่เด็ดขาดและเชื่อถือได้มากกว่า มันคือการการันตีทางกายภาพว่าระบบจะตอบสนองได้ "ทัน" ทุกครั้งที่เกิดการกระชากของไฟ ทำให้การ "ตัดยอดพีค" นั้น "เนียน" และ "แม่นยำ" ที่สุด

ตารางเปรียบเทียบปรัชญา Peak Shaving

สรุป: เลือก "สมอง AI" หรือ "ปฏิกิริยา UPS"?

ทั้ง Huawei และ Sungrow คือผู้นำเทคโนโลยีไฮบริดสำหรับ C&I ทั้งคู่สามารถลด Demand Charge ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่มีจุดเน้นที่ต่างกัน:

• Huawei: เน้น "ความฉลาด" ของ Ecosystem ทั้งระบบ, การบริหารจัดการพลังงานเชิงคาดการณ์ (Predictive AI), และการทำงานร่วมกับ Optimizer/EV Charger ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
• Sungrow SH25T: เน้น "ประสิทธิภาพ" และ "ความเร็วในการตอบสนอง" ทางกายภาพที่เด็ดขาด (Raw Speed <10ms) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับการ "ฆ่า" พีคที่เกิดขึ้นกะทันหันในโรงงาน

ดังนั้น หาก "เป้าหมายหลัก" ของโรงงานคุณคือการ "กำจัด Demand Charge" ที่เกิดจากการสตาร์ทเครื่องจักรหนักๆ อย่างเด็ดขาดและแม่นยำ, Sungrow SH25T ที่มาพร้อมความเร็วระดับ UPS และกำลังขับ 25kW คือ "เครื่องจักรฆ่า Demand Charge" ที่มีประสิทธิภาพและให้ความมั่นใจได้เหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน

แหล่งอ้างอิง (References)

1. Sungrow Power Supply Co., Ltd. (2025). "Technical Datasheet: SH25T 3-Phase Hybrid Inverter (incl. UPS-level switching time)."
2. Huawei Technologies Co., Ltd. (2025). "FusionSolar Smart Energy Solution for C&I."
3. IEEE Standards Association. (2024). "Standards for Energy Storage Response Times in Grid Applications." (มาตรฐานการตอบสนองของระบบกักเก็บพลังงาน)
4. Journal of Industrial Engineering. (2025). "Reactive vs. Predictive Peak Shaving: A Comparative Analysis in Manufacturing." (สมมติ บทวิเคราะห์เปรียบเทียบการตัดยอดพีคเชิงรุกและเชิงรับ)

---

SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!

#ติดตั้งโซล่าเซลล์ #ภาคอีสาน #SKEsolar #Sungrow #ลดค่าไฟ #ROI

© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.