Micro Inverter

Sungrow S1000S คืออะไร และแตกต่างจากอินเวอร์เตอร์ทั่วไป (String Inverter) อย่างไร?
Sungrow S1000S คือ ไมโครอินเวอร์เตอร์ (Microinverter) เป็นเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ขั้นสูงที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กและติดตั้งไว้ใต้แผงโซลาร์เซลล์โดยตรง โดย S1000S หนึ่งตัวจะดูแลการแปลงไฟจากแผงโซลาร์ 2 แผง

ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ:

String Inverter (ระบบดั้งเดิม): จะรวมไฟฟ้า DC จากแผงโซลาร์หลายๆ แผง (ทั้งสตริง) มาแปลงเป็นไฟ AC ที่อินเวอร์เตอร์ตัวใหญ่เพียงตัวเดียว หากแผงใดแผงหนึ่งมีปัญหา (เช่น โดนเงาบัง, สกปรก) ประสิทธิภาพของแผง ทั้งสตริง จะลดลงตามไปด้วย
Microinverter (S1000S): จะแปลงไฟ DC เป็น AC ที่แผงแต่ละชุด (2 แผงต่อ 1 ตัว) ทำให้แผงทุกชุดทำงานได้อย่างอิสระและเต็มประสิทธิภาพสูงสุดของตัวเอง หากมีแผงไหนโดนเงาบัง ก็จะไม่กระทบต่อการผลิตไฟของแผงอื่นเลย
เหตุผล: เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอขวดของระบบสตริง ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้เสถียรและมีประสิทธิภาพโดยรวมสูงกว่า โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่หลังคาซับซ้อนหรือมีโอกาสเกิดเงาบัง
S1000S หนึ่งตัวต่อกับแผงโซลาร์ได้กี่แผง และต้องเป็นแผงแบบไหน?
S1000S หนึ่งตัว สามารถเชื่อมต่อกับแผงโซลาร์เซลล์ได้ 2 แผง ครับ โดยมีช่อง MPPT (Maximum Power Point Tracker) ถึง 2 ช่องแยกกันอิสระ ทำให้สามารถดึงพลังงานสูงสุดจากแผงทั้งสองได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าแผงทั้งสองจะได้รับแสงไม่เท่ากันก็ตาม

S1000S ถูกออกแบบมาให้รองรับแผงโซลาร์กำลังสูงรุ่นใหม่ๆ ในตลาดได้สบาย ตั้งแต่ 375 วัตต์ ไปจนถึง 670+ วัตต์ จึงมีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์
ระบบ Microinverter ผลิตไฟได้ดีกว่า String Inverter จริงหรือ? คุ้มค่ากับการลงทุนที่อาจสูงกว่าหรือไม่?
จริงครับ โดยเฉพาะในสถานการณ์ต่อไปนี้:

หลังคามีเงาบัง: หากหลังคาบ้านคุณมีเงาจากต้นไม้, เสาอากาศ, ปล่องไฟ หรืออาคารข้างเคียงในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของวัน ระบบ Microinverter จะผลิตไฟได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะแผงที่โดนเงาจะไม่ดึงประสิทธิภาพแผงอื่นลงมา
หลังคาหลายทิศทาง: บ้านที่มีหลังคาหันไปหลายทิศ (เช่น ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก) Microinverter จะช่วยให้แผงแต่ละฝั่งผลิตไฟได้เต็มที่ตามช่วงเวลาที่ได้รับแสง
การเสื่อมสภาพของแผงไม่เท่ากัน: ในระยะยาว แผงโซลาร์อาจเสื่อมสภาพไม่เท่ากัน Microinverter จะยังคงดึงพลังงานจากแผงที่ดีได้เต็มที่
ความคุ้มค่า: แม้ราคาเริ่มต้นอาจสูงกว่า แต่คุณจะได้ผลผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นตลอดอายุการใช้งาน (25-30 ปี) ซึ่งหมายถึง ระยะเวลาคืนทุนที่เร็วขึ้นและผลตอบแทนโดยรวมที่สูงกว่า ประกอบกับการรับประกันตัวเครื่องที่ยาวนานถึง 12 ปี จากเรา ทำให้เป็นการลงทุนที่มั่นคงและคุ้มค่าในระยะยาวครับ
ฉันจะติดตามหรือดูการทำงานของระบบได้อย่างไร?
คุณสามารถติดตามการทำงานของระบบได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน iSolarCloud บนสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือคุณสามารถดูข้อมูลการผลิตไฟฟ้าได้แบบ "รายแผง" (Module-Level Monitoring) ซึ่งทำให้:

เห็นประสิทธิภาพจริง: รู้ได้ทันทีว่าแผงแต่ละแผงทำงานเป็นปกติหรือไม่
ระบุปัญหาง่าย: หากมีแผงใดทำงานผิดปกติ จะสามารถระบุตำแหน่งและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
โปร่งใสและตรวจสอบได้: คุณจะเห็นข้อมูลการผลิตไฟของระบบคุณอย่างละเอียด ไม่ใช่แค่ภาพรวมอย่างเดียว
ระบบ Microinverter มีความปลอดภัยมากกว่าระบบอื่นอย่างไร?
นี่คือจุดเด่นที่สุดข้อหนึ่งของ Microinverter ครับ ระบบอินเวอร์เตอร์แบบสตริงจะมีการเดินสายไฟ DC แรงดันสูง (อาจสูงถึง 600-1000V) บนหลังคา ซึ่งหากเกิดการชำรุดอาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดประกายไฟ (Arc Fault) และเป็นสาเหตุของอัคคีภัยได้

แต่สำหรับ Sungrow S1000S จะแปลงไฟเป็น AC ที่ใต้แผงทันที ทำให้สายไฟที่เดินบนหลังคาเป็นไฟฟ้า AC แรงดันต่ำเหมือนไฟบ้าน และใช้แรงดันไฟฟ้า DC ที่ต่ำมาก (ไม่เกิน 60V) จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัยได้อย่างมหาศาล และเป็นระบบที่ปลอดภัยสูงสุดสำหรับบ้านพักอาศัย
การติดตั้งยุ่งยากหรือไม่? และการรับประกันงานติดตั้งครอบคลุมอะไรบ้าง?
การติดตั้งไม่ยุ่งยากสำหรับทีมช่างมืออาชีพครับ ตัวอุปกรณ์มีขนาดเล็กและติดตั้งใต้แผงได้อย่างเรียบร้อย

ที่สำคัญ เมื่อติดตั้งกับเรา คุณจะได้รับการ รับประกันงานติดตั้งนานถึง 3 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมถึง:

ความแข็งแรงของโครงสร้างการติดตั้ง
ความเรียบร้อยและความปลอดภัยของระบบสายไฟทั้งหมด
การป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมจากการติดตั้งบนหลังคา
คุณจึงมั่นใจได้ว่าระบบจะถูกติดตั้งอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสูงสุดและปลอดภัยตลอดระยะเวลาการใช้งาน


 

 
การรับประกันสินค้านาน 12 ปี และบริการหลังการขายมีรายละเอียดอย่างไร?
เราให้ความสำคัญกับความมั่นใจในระยะยาวของคุณครับ แพ็กเกจของเราประกอบด้วย:

รับประกันตัวเครื่อง Microinverter S1000S นาน 12 ปี: เป็นการรับประกันจากผู้ผลิตโดยตรง (ปกติบางแห่งให้ 10 ปี) หากตัวเครื่องมีปัญหาจากการผลิต เราพร้อมประสานงานและดำเนินการเปลี่ยนให้ทันที

รับประกันงานติดตั้ง 3 ปี: ครอบคลุมทุกปัญหาที่เกิดจากคุณภาพการติดตั้งของเรา

บริการล้างแผงฟรี 3 ปี (ปีละ 1 ครั้ง): การล้างแผงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาประสิทธิภาพการผลิตไฟสูงสุด เราจึงจัดบริการนี้ให้คุณฟรี เพื่อให้ระบบของคุณทำงานได้เต็มศักยภาพอยู่เสมอ

เหตุผล: การรับประกันที่ครอบคลุมทั้งตัวสินค้า งานติดตั้ง และการบำรุงรักษาเช่นนี้ คือเครื่องยืนยันว่าเรามั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการของเรา และต้องการให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนในครั้งนี้อย่างแท้จริงครับ
แรงดันไฟฟ้าฝั่ง DC ที่ S1000S รับได้อยู่ในช่วงเท่าไหร่ และมีความสำคัญอย่างไร?
S1000S มีช่วงแรงดันไฟฟ้าที่เริ่มทำงาน (MPPT Voltage Range) ที่ 16V - 60V และรับแรงดันไฟฟ้าสูงสุดได้ไม่เกิน 60V ครับ

ความสำคัญคือ "ความปลอดภัยสูงสุด": แรงดัน 60V ถือเป็นระดับแรงดันไฟฟ้าต่ำ (Safety Extra Low Voltage) ซึ่งไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตหากสัมผัสโดยตรง และที่สำคัญคือ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาร์ค (Arc Fault) หรือประกายไฟ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอัคคีภัยในระบบโซลาร์ที่ใช้ String Inverter ซึ่งมีแรงดันสูงถึง 600-1000V ครับ
ค่า "CEC Weighted Efficiency" 96.2% หมายความว่าอะไร และต่างจาก "Max Efficiency" อย่างไร?
Max Efficiency (ประสิทธิภาพสูงสุด): คือค่าประสิทธิภาพสูงสุดที่อินเวอร์เตอร์ทำได้ ณ "สภาวะทดสอบในห้องแล็บ" ซึ่งเป็นสภาวะที่สมบูรณ์แบบที่สุด
CEC Weighted Efficiency (ประสิทธิภาพเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก): คือค่าประสิทธิภาพที่ สะท้อนการใช้งานจริงมากกว่า โดยคำนวณจากการทำงานที่ระดับกำลังไฟต่างๆ ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่แสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า ไปจนถึงแดดจัดตอนเที่ยง ค่า 96.2% ของ S1000S จึงบ่งชี้ว่าอุปกรณ์นี้สามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้ากระแสสลับได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงอย่างสม่ำเสมอในสภาพการใช้งานจริงตลอดวัน ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
อุปกรณ์นี้มีค่า Power Factor เท่าไหร่ และสำคัญอย่างไรต่อระบบไฟฟ้าในบ้าน?
S1000S มีค่า Power Factor (PF) ที่ปรับได้ตั้งแต่ 0.8 leading ถึง 0.8 lagging (และโดยปกติจะทำงานที่ >0.99)

ความสำคัญ: ค่า PF ที่ใกล้เคียง 1 (หรือ >0.99) หมายความว่าอินเวอร์เตอร์สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด โดยมีการสูญเสียในระบบน้อยมาก และจ่ายไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงเข้าสู่ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่สร้างภาระให้กับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ

ถ้าต้องการติดตั้งระบบขนาด 5kW จะต้องใช้ S1000S กี่ตัว และต่อเข้าระบบไฟฟ้าบ้านอย่างไร?
เนื่องจาก S1000S หนึ่งตัวมีกำลังผลิต 1kW (1000W) ดังนั้นสำหรับระบบขนาด 5kW จะต้องใช้ S1000S ทั้งหมด 5 ตัว ครับ

การเชื่อมต่อ: ไมโครอินเวอร์เตอร์แต่ละตัวจะถูกเชื่อมต่อขนานกันด้วยสาย Trunk Cable ซึ่งเป็นสายเคเบิลสำหรับระบบไมโครอินเวอร์เตอร์โดยเฉพาะ จากนั้นปลายสายจะถูกรวบมาเข้าตู้ควบคุม (AC Combiner Box) และเชื่อมต่อเข้ากับตู้ไฟหลัก (Main Breaker) ของบ้านเหมือนระบบโซลาร์ทั่วไป เป็นการติดตั้งที่ปลอดภัยและเป็นมาตรฐาน
หากในอนาคตต้องการขยายระบบ (เช่น จาก 3kW เป็น 5kW) จะทำได้หรือไม่?
ทำได้อย่างง่ายดายครับ นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญของระบบไมโครอินเวอร์เตอร์ คุณสามารถเพิ่มแผงโซลาร์พร้อมกับไมโครอินเวอร์เตอร์ S1000S เข้าไปในระบบเดิมได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ตัวหลักเหมือนระบบ String Inverter ทำให้การขยายระบบในอนาคตทำได้สะดวกและประหยัดกว่ามาก
S1000S สามารถติดตั้งบนหลังคาทุกประเภทหรือไม่ (เช่น เมทัลชีท, ลอนคู่, ซีแพคโมเนีย)?
สามารถติดตั้งได้บนหลังคาทุกประเภทครับ ตัว S1000S จะถูกยึดติดกับโครงราง (Mounting) ที่ใช้สำหรับยึดแผงโซลาร์เซลล์โดยตรง ความสำคัญจึงอยู่ที่การเลือกใช้อุปกรณ์จับยึดหลังคา (Roof Hook) ให้เหมาะสมกับประเภทของหลังคา ซึ่งทีมช่างติดตั้งมืออาชีพจะสามารถเลือกและติดตั้งได้อย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึม 100%
มาตรฐาน IP67 และการระบายความร้อนแบบธรรมชาติ (Natural Convection) เชื่อถือได้แค่ไหนในสภาพอากาศร้อนจัดของเมืองไทย?
เชื่อถือได้และเหมาะสมอย่างยิ่งครับ

IP67: คือมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับสูง หมายความว่า S1000S สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถจมน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร ได้เป็นเวลา 30 นาที จึงทนทานต่อฝนตกหนักและพายุได้อย่างไม่มีปัญหา
Natural Convection: การออกแบบให้ระบายความร้อนผ่านครีบระบายความร้อน (Heatsink) โดยไม่มีพัดลมภายใน หมายความว่า ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว (Moving Parts) ที่จะเสื่อมสภาพหรือเสียได้ ทำให้ตัวเครื่องมีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานกว่าอินเวอร์เตอร์ที่มีพัดลม โดยถูกออกแบบมาให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในอุณหภูมิแวดล้อมสูงถึง 65°C ซึ่งเพียงพอต่อสภาพอากาศของประเทศไทย
ในระยะยาว 10-20 ปี ประสิทธิภาพของไมโครอินเวอร์เตอร์จะลดลงหรือไม่?
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดมีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา แต่ Sungrow เป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกที่ใช้วัสดุและชิ้นส่วนคุณภาพสูง (Tier 1) ทำให้มีอัตราการเสื่อมสภาพต่ำมาก ที่สำคัญคือ การรับประกันตัวเครื่องนานถึง 12 ปีจากเรา เป็นเครื่องยืนยันว่าคุณจะได้รับการดูแลหากเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นภายในระยะเวลานี้ ซึ่งครอบคลุมช่วงเวลาส่วนใหญ่ของการคืนทุนไปแล้ว
ถ้าอินเทอร์เน็ตที่บ้านล่ม ระบบโซลาร์จะยังทำงานหรือไม่?
ระบบยังคงผลิตไฟฟ้าและจ่ายไฟเข้าบ้านตามปกติครับ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Wi-Fi) มีไว้สำหรับ การส่งข้อมูลเพื่อการมอนิเตอร์ริ่ง (Monitoring) เท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อการทำงานหลักของอินเวอร์เตอร์ หากอินเทอร์เน็ตล่ม คุณแค่จะไม่สามารถดูข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์บนแอป iSolarCloud ได้ และเมื่ออินเทอร์เน็ตกลับมาใช้งานได้ ข้อมูลที่ค้างอยู่ก็จะถูกอัปเดตขึ้นไปบนระบบอีกครั้ง
การดูข้อมูล "รายแผง" มีประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง?
มีประโยชน์อย่างมากครับ

การันตีประสิทธิภาพ: คุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองว่าแผงทุกแผงทำงานได้เต็มที่จริงหรือไม่ สร้างความโปร่งใสและมั่นใจในระบบที่ติดตั้ง

แจ้งเตือนปัญหาเชิงรุก: หากมีแผงใดแผงหนึ่งเสีย, สกปรกผิดปกติ, หรือมีปัญหาสายหลุด คุณจะเห็นได้ทันทีจากข้อมูลในแอป ทำให้สามารถเรียกใช้บริการหลังการขายเพื่อแก้ไขได้ตรงจุดและรวดเร็ว

พิสูจน์การทำงาน: เป็นเครื่องมือพิสูจน์ว่าระบบไมโครอินเวอร์เตอร์สามารถจัดการกับปัญหาเงาบังได้ดีกว่าระบบสตริงอย่างชัดเจน
นอกจากเรื่องเงาบังแล้ว มีเหตุผลอื่นอีกไหมที่ควรเลือก Microinverter แทน String Inverter + Optimizer?
มีครับ แม้ว่า String Inverter + Optimizer จะช่วยแก้ปัญหาเงาบังได้ในระดับหนึ่ง แต่ Microinverter ยังมีข้อได้เปรียบในด้านอื่น ๆ คือ:

ความน่าเชื่อถือของระบบโดยรวม (System Reliability): ระบบไมโครอินเวอร์เตอร์เป็นแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) หากไมโครอินเวอร์เตอร์ตัวหนึ่งเสีย จะมีเพียง 2 แผงที่ไม่ทำงาน แต่ส่วนที่เหลือของระบบยังคงผลิตไฟตามปกติ แต่ถ้า String Inverter เสีย จะหมายถึง ระบบทั้งหมดจะหยุดทำงานทันที (Single Point of Failure)

ความปลอดภัยสูงสุด: อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Microinverter มีความปลอดภัยจากแรงดันไฟฟ้า DC สูงที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

ความยืดหยุ่นในการออกแบบ: สามารถติดตั้งแผงจำนวนคี่ หรือติดตั้งบนระนาบหลังคาที่แตกต่างกันได้อย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเทคนิค
การรับประกันงานติดตั้ง 3 ปี และล้างแผง 3 ปี มีมูลค่าและความสำคัญอย่างไรต่อการลงทุน?
มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความคุ้มค่าโดยรวมครับ

รับประกันงานติดตั้ง 3 ปี: เป็นการการันตีว่าในช่วง 3 ปีแรกซึ่งเป็นช่วงที่มักจะพบปัญหาจากการติดตั้ง คุณจะได้รับการดูแลแก้ไขโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สร้างความสบายใจและลดความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด
ล้างแผงฟรี 3 ปี (ปีละครั้ง): คราบฝุ่นและสิ่งสกปรกสามารถลดประสิทธิภาพการผลิตไฟได้ 5-20% การล้างแผงอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ คุณได้รับผลผลิตไฟฟ้ากลับคืนมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งหมายถึง "ผลตอบแทนที่สูงขึ้น" และ "ระยะเวลาคืนทุนที่เร็วขึ้น" บริการนี้จึงไม่ใช่แค่ของแถม แต่เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการลงทุนของคุณโดยตรง
icon-whatsapp
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?
เริ่มแชท
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ