เจาะลึกประวัติ "อุทยานแห่งชาติผาแต้ม": จากหลักฐานมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สู่สัญลักษณ์แห่งอุบลราชธานี
อัพเดทล่าสุด: 22 ก.ย. 2025
24 ผู้เข้าชม
เจาะลึกประวัติ "อุทยานแห่งชาติผาแต้ม": จากหลักฐานมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สู่สัญลักษณ์แห่งอุบลราชธานี
บทนำ:
เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดอุบลราชธานี ชื่อของ "อุทยานแห่งชาติผาแต้ม" มักจะเป็นลำดับต้นๆ ที่คนนึกถึง ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในสยามเท่านั้น แต่ผืนป่าแห่งนี้ยังเป็นพยานเงียบที่เก็บงำเรื่องราวของอารยธรรมโบราณและวิวัฒนาการทางธรณีวิทยาที่ยาวนานนับล้านปี บทความนี้จะพาคุณย้อนเวลาไปเจาะลึกประวัติความเป็นมาของผาแต้ม เพื่อทำความเข้าใจถึงคุณค่าอันล้ำลึกที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความงามทางธรรมชาติ
ยุคก่อนประวัติศาสตร์: ร่องรอยอารยธรรมแห่งแรกในภูมิภาค
หัวใจสำคัญที่ทำให้อุทยานแห่งชาติผาแต้มโดดเด่นไม่เหมือนใครคือ "ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์" ที่ปรากฏอยู่ตามผนังเพิงผาหลายจุด เช่น ผาแต้ม ผาขาม ผาเจ็ก และผาหมอน ภาพเหล่านี้คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่าบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ 3,000 4,000 ปีที่แล้ว
เรื่องราวจากผนังหิน: ภาพเขียนสีส่วนใหญ่เป็นภาพเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในสมัยนั้น เช่น รูปคน รูปสัตว์ (สัตว์น้ำ, สัตว์บก), อุปกรณ์จับปลา (ไซ, ยอ), มือ, และสัญลักษณ์เรขาคณิตต่างๆ ภาพเขียนเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนวิถีชีวิต การล่าสัตว์หาปลา ความเชื่อ และพิธีกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือน "ห้องสมุดกลางแจ้ง" ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านศิลปะที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
การค้นพบ: การค้นพบภาพเขียนสีเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2524-2525 โดยคณะสำรวจจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และหลังจากนั้นจึงมีการศึกษาและสำรวจเพิ่มเติม ทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
วิวัฒนาการทางธรณีวิทยา: ประติมากรรมธรรมชาติล้านปี
ลานหินกว้างใหญ่และหน้าผาสูงชันของผาแต้มไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอย่างยาวนานนับล้านปี
หินทราย: พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยชั้นหินทรายของหมวดหินภูพาน (Formation Phu Phan) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหินโคราช (Khorat Group) ที่ก่อตัวขึ้นในยุคครีเทเชียส (ประมาณ 145 - 66 ล้านปีที่แล้ว)
การกัดเซาะ: กระบวนการกัดเซาะของลม น้ำ และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ได้หล่อหลอมให้เกิดเป็นรูปร่างของหน้าผาที่สวยงาม และที่น่าสนใจคือ "เสาเฉลียง" กลุ่มหินทรายที่ตั้งเด่นเป็นสง่าคล้ายดอกเห็ดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการกัดเซาะที่เกิดจากชั้นหินทรายที่มีความแข็งไม่เท่ากันในแต่ละชั้น
การประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
ด้วยคุณค่าทางธรรมชาติที่โดดเด่นทั้งภูมิทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะการเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่กว้างไกล รวมถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์จากภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ทำให้กรมป่าไม้ในขณะนั้นเล็งเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์พื้นที่แห่งนี้
วันก่อตั้ง: อุทยานแห่งชาติผาแต้มได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2534 โดยครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ประมาณ 340 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 212,500 ไร่
ผาแต้มในปัจจุบัน: แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม
ในปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติผาแต้มได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี ที่นี่ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นคนแรกของประเทศไทย (First Sunrise Spot in Thailand) แต่ยังเป็นศูนย์รวมของความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ลานหินจะกลายเป็น "ทุ่งดอกไม้ป่า" ที่เบ่งบานอย่างสวยงาม ทั้งสร้อยสุวรรณา ดุสิตา และมณีเทวา
การเดินทางมาเยือนผาแต้มจึงไม่ใช่แค่การมาชมวิวสวยๆ แต่เป็นการเดินทางผ่านกาลเวลา สัมผัสร่องรอยของมนุษย์ยุคโบราณ เรียนรู้เรื่องราวทางธรณีวิทยา และชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มแห่งนี้
บทนำ:
เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดอุบลราชธานี ชื่อของ "อุทยานแห่งชาติผาแต้ม" มักจะเป็นลำดับต้นๆ ที่คนนึกถึง ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในสยามเท่านั้น แต่ผืนป่าแห่งนี้ยังเป็นพยานเงียบที่เก็บงำเรื่องราวของอารยธรรมโบราณและวิวัฒนาการทางธรณีวิทยาที่ยาวนานนับล้านปี บทความนี้จะพาคุณย้อนเวลาไปเจาะลึกประวัติความเป็นมาของผาแต้ม เพื่อทำความเข้าใจถึงคุณค่าอันล้ำลึกที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความงามทางธรรมชาติ
ยุคก่อนประวัติศาสตร์: ร่องรอยอารยธรรมแห่งแรกในภูมิภาค
หัวใจสำคัญที่ทำให้อุทยานแห่งชาติผาแต้มโดดเด่นไม่เหมือนใครคือ "ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์" ที่ปรากฏอยู่ตามผนังเพิงผาหลายจุด เช่น ผาแต้ม ผาขาม ผาเจ็ก และผาหมอน ภาพเหล่านี้คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่าบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ 3,000 4,000 ปีที่แล้ว
เรื่องราวจากผนังหิน: ภาพเขียนสีส่วนใหญ่เป็นภาพเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในสมัยนั้น เช่น รูปคน รูปสัตว์ (สัตว์น้ำ, สัตว์บก), อุปกรณ์จับปลา (ไซ, ยอ), มือ, และสัญลักษณ์เรขาคณิตต่างๆ ภาพเขียนเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนวิถีชีวิต การล่าสัตว์หาปลา ความเชื่อ และพิธีกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือน "ห้องสมุดกลางแจ้ง" ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านศิลปะที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
การค้นพบ: การค้นพบภาพเขียนสีเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2524-2525 โดยคณะสำรวจจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และหลังจากนั้นจึงมีการศึกษาและสำรวจเพิ่มเติม ทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
วิวัฒนาการทางธรณีวิทยา: ประติมากรรมธรรมชาติล้านปี
ลานหินกว้างใหญ่และหน้าผาสูงชันของผาแต้มไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอย่างยาวนานนับล้านปี
หินทราย: พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยชั้นหินทรายของหมวดหินภูพาน (Formation Phu Phan) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหินโคราช (Khorat Group) ที่ก่อตัวขึ้นในยุคครีเทเชียส (ประมาณ 145 - 66 ล้านปีที่แล้ว)
การกัดเซาะ: กระบวนการกัดเซาะของลม น้ำ และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ได้หล่อหลอมให้เกิดเป็นรูปร่างของหน้าผาที่สวยงาม และที่น่าสนใจคือ "เสาเฉลียง" กลุ่มหินทรายที่ตั้งเด่นเป็นสง่าคล้ายดอกเห็ดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการกัดเซาะที่เกิดจากชั้นหินทรายที่มีความแข็งไม่เท่ากันในแต่ละชั้น
การประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
ด้วยคุณค่าทางธรรมชาติที่โดดเด่นทั้งภูมิทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะการเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่กว้างไกล รวมถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์จากภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ทำให้กรมป่าไม้ในขณะนั้นเล็งเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์พื้นที่แห่งนี้
วันก่อตั้ง: อุทยานแห่งชาติผาแต้มได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2534 โดยครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ประมาณ 340 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 212,500 ไร่
ผาแต้มในปัจจุบัน: แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม
ในปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติผาแต้มได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี ที่นี่ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นคนแรกของประเทศไทย (First Sunrise Spot in Thailand) แต่ยังเป็นศูนย์รวมของความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ลานหินจะกลายเป็น "ทุ่งดอกไม้ป่า" ที่เบ่งบานอย่างสวยงาม ทั้งสร้อยสุวรรณา ดุสิตา และมณีเทวา
การเดินทางมาเยือนผาแต้มจึงไม่ใช่แค่การมาชมวิวสวยๆ แต่เป็นการเดินทางผ่านกาลเวลา สัมผัสร่องรอยของมนุษย์ยุคโบราณ เรียนรู้เรื่องราวทางธรณีวิทยา และชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มแห่งนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
ใครว่าหน้าฝนน่าเบื่อ? ชวนมาเปลี่ยนความคิดที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี สัมผัสความงามของทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีสันที่เบ่งบานเต็มที่ท่ามกลางไอหมอก พร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด
22 ก.ย. 2025
เจาะลึกประวัติความเป็นมาและแรงบันดาลใจเบื้องหลัง "วัดเรืองแสง" หรือวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว สัมผัสความงามของต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงยามค่ำคืน พร้อมข้อมูลการเดินทาง เวลาเปิดปิด และเบอร์ติดต่อครบถ้วน
22 ก.ย. 2025