แชร์

อนาคตการประเมินราคา: "คะแนนประสิทธิภาพพลังงาน" มาตรฐานใหม่ของอาคาร

IMG_7945.jpeg Miss Kaewthip
อัพเดทล่าสุด: 18 ต.ค. 2025
10 ผู้เข้าชม

อนาคตการประเมินราคา: เมื่อ "คะแนนประสิทธิภาพพลังงาน" (Energy Rating) กลายเป็นมาตรฐานของอาคาร


ลองจินตนาการถึงวันที่การซื้อขายบ้านหรือโรงงาน จะต้องมี "ฉลาก" หรือ "ใบรับรอง" ที่บอกว่าอาคารหลังนี้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน เหมือนกับที่เราดูฉลากเบอร์ 5 บนเครื่องใช้ไฟฟ้า นี่คืออนาคตที่กำลังจะมาถึง เมื่อ "คะแนนประสิทธิภาพพลังงาน" (Energy Performance Rating) กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการประเมิน "มูลค่า" ของอสังหาริมทรัพย์


บทความนี้ SKE จะพาไปสำรวจว่าทำไมเทรนด์นี้ถึงกำลังมาแรง และโซล่าเซลล์มีบทบาทสำคัญอย่างไรในการยกระดับคะแนนและมูลค่าของอาคารในอนาคต


Energy Performance Rating คืออะไร?

Energy Performance Rating หรือบางครั้งเรียกว่า Energy Performance Certificate (EPC) คือ การประเมินและให้คะแนนว่าอาคารหลังหนึ่งๆ มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น:

  • คุณภาพของฉนวนกันความร้อน
  • ประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศและทำความร้อน
  • ประสิทธิภาพของระบบแสงสว่าง
  • การออกแบบอาคารที่รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ
  • และการมีระบบผลิตพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ (เช่น โซล่าเซลล์)

ผลการประเมินมักจะแสดงเป็น "เกรด" (เช่น A ถึง G) หรือ "คะแนน" เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบ


ทำไม Energy Rating ถึงจะกลายเป็น "มาตรฐาน"?

มีแรงผลักดันสำคัญหลายประการ:

  • ข้อกำหนดทางกฎหมาย (Regulations): หลายประเทศในยุโรปและบางรัฐในสหรัฐฯ เริ่มออกกฎหมายบังคับให้อาคารที่ซื้อขายหรือให้เช่าต้องมีใบรับรอง EPC เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ซื้อ/ผู้เช่า ซึ่งแนวโน้มนี้มีโอกาสขยายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยในอนาคต
  • ความต้องการของผู้บริโภค (Consumer Demand): ผู้ซื้อและผู้เช่ายุคใหม่ให้ความสำคัญกับ "ค่าใช้จ่ายแฝง" ด้านพลังงานมากขึ้น และมองหาอาคารที่ช่วยให้พวกเขาประหยัดเงินในระยะยาว
  • แรงกดดันจากนักลงทุน (Investor Pressure - ESG): นักลงทุนสถาบันให้ความสำคัญกับปัจจัยด้าน ESG มากขึ้น การลงทุนในอาคารที่มีประสิทธิภาพพลังงานสูงถือเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนและมีความเสี่ยงต่ำกว่า

Energy Rating ส่งผลต่อ "ราคาประเมิน" อย่างไร?

เมื่อ Energy Rating กลายเป็นข้อมูลมาตรฐานที่เข้าถึงได้ง่าย มันจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกับทำเลที่ตั้ง, ขนาดพื้นที่, หรืออายุของอาคาร:

  • อาคารที่มีคะแนนสูง (เกรด A, B): จะถูกมองว่ามีคุณภาพสูงกว่า, มีต้นทุนการอยู่อาศัย/ดำเนินงานต่ำกว่า, และมีความน่าดึงดูดใจมากกว่า ส่งผลให้มี "ราคาประเมินสูงขึ้น" และขาย/ปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้น
  • อาคารที่มีคะแนนต่ำ (เกรด F, G): อาจถูกมองว่า "ล้าสมัย" และมีต้นทุนแฝงสูง อาจต้องมีการ "ลดราคา" หรือ "ลงทุนปรับปรุง" เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้

บทบาทสำคัญของ "โซล่าเซลล์" ในการอัปเกรดคะแนน

การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ (โดยเฉพาะระบบคุณภาพสูงอย่าง Sungrow) คือหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการ "อัปเกรด" คะแนนประสิทธิภาพพลังงาน ของอาคารได้อย่างก้าวกระโดด เพราะ:

  • เป็นการผลิตพลังงานสะอาด ณ จุดใช้งาน: ลดการพึ่งพาพลังงานจาก Grid ซึ่งมักจะมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • ลดการใช้พลังงานสุทธิ (Net Energy Consumption): ช่วยให้อาคารเข้าใกล้ความเป็น Net Zero Energy Building ได้มากขึ้น

การมีโซล่าเซลล์จึงไม่ใช่แค่การลดค่าไฟ แต่คือการ "ลงทุน" เพื่อเพิ่มคะแนน Energy Rating และส่งผลโดยตรงต่อ "มูลค่าทรัพย์สิน" ในอนาคต


สรุป: เตรียมพร้อมสำหรับมาตรฐานใหม่

อนาคตของการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์กำลังจะเปลี่ยนไป "คะแนนประสิทธิภาพพลังงาน" จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อ, ผู้เช่า, นักลงทุน, และสถาบันการเงินนำมาพิจารณา การลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "โซล่าเซลล์" ในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่การลดค่าใช้จ่าย แต่คือการเตรียมความพร้อมและ "การันตีมูลค่า" ให้กับทรัพย์สินของคุณสำหรับมาตรฐานแห่งอนาคต



---

ติดต่อสอบถามและประเมินหน้างานฟรี:
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @supsaringkan97
#โซลาร์เซลล์ #ติดตั้งโซลาร์เซลล์ #ลดค่าไฟ #SKESolar #พลังงานแสงอาทิตย์ #การลงทุน



IMG_7945.jpeg
Miss Kaewthip
Hi
บทความที่เกี่ยวข้อง
บทสรุปประวัติศาสตร์ Sungrow: ทำไมการเลือกอินเวอร์เตอร์ คือการเลือก "พาร์ทเนอร์" ธุรกิจในอีก 25 ปี
สรุปประวัติศาสตร์ 27 ปี ของ Sungrow ที่พิสูจน์ว่าทำไมการเลือกอินเวอร์เตอร์ ไม่ใช่ 'การซื้อ' แต่คือ 'การเลือกพาร์ทเนอร์' 25 ปี ที่วัดกันด้วย (Bankability, R&D, Local Support, Vision)
ประวัติศาสตร์สอนอะไรเรา? 5 บทเรียนจาก 27 ปีของ Sungrow สำหรับผู้ประกอบการที่ 'ลังเล'
สรุป 5 บทเรียนจากประวัติศาสตร์ 27 ปีของ Sungrow ที่ตอบทุก "ความลังเล" ของผู้ประกอบการ: การรอคือต้นทุน, เลือกความมั่นคง (Bankable), เทคโนโลยีคือการแก้ปัญหา, และนี่คือ "สินทรัพย์"
เทรนด์ VPP (Virtual Power Plant): ประวัติศาสตร์ Sungrow ชี้อนาคตที่โรงงานอาจ "ขายไฟ" คืนระบบได้
วิเคราะห์เทรนด์ VPP (โรงไฟฟ้าเสมือน) ที่ Sungrow (BESS, EMS, iSolarCloud) สร้าง "แพลตฟอร์ม VPP-Ready" ให้อนาคตโรงงาน "สร้างรายได้" จากการ "ขายไฟ" คืนระบบ
icon-whatsapp
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?
เริ่มแชท
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ