"ซื้อเมื่อย่อ" (Buy on Dip): ย่อแค่ไหนถึงเรียกว่า "ของถูก"? | SKE

"ซื้อเมื่อย่อ" (Buy on Dip): ย่อแค่ไหนถึงเรียกว่า "ของถูก"? | SKE
"Buy on Dip" (ซื้อเมื่อย่อ) คือหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ได้รับความนิยมที่สุด มันคือการ "ซื้อของดี ที่กำลังลดราคาชั่วคราว" แต่ปัญหาที่มือใหม่ทุกคนต้องเจอคือคำถามที่ว่า: "ย่อแค่ไหนถึงเรียกว่า 'ย่อ'? และย่อแค่ไหนถึงเรียกว่า 'กำลังจะเจ๊ง'?"
การแยกแยะระหว่าง "การย่อตัวเพื่อไปต่อ" (Dip) กับ "การกลับตัวเป็นขาลง" (Reversal หรือ Falling Knife) คือหัวใจสำคัญที่สุดในการใช้กลยุทธ์นี้
บทความนี้จะเจาะลึก 3 เครื่องมือหลักที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้ในการ "วัด" ว่าการย่อตัวนั้น "สมเหตุสมผล" และเป็น "ของถูก" ที่น่าเข้าซื้อหรือไม่
1. "กับดัก" ของการย่อ: Dip หรือ Falling Knife?
สิ่งแรกที่ต้องตระหนักคือ: กลยุทธ์ "Buy on Dip" ถูกออกแบบมาให้ใช้ใน "แนวโน้มขาขึ้น" (Uptrend) เท่านั้น
การซื้อหุ้นที่กำลัง "ย่อตัว" ในขณะที่ภาพรวมยังเป็น "ขาขึ้น" ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี แต่การซื้อหุ้นที่กำลัง "ย่อตัว" ในขณะที่ภาพรวมเป็น "ขาลง" (Downtrend) นั้น ไม่เรียกว่า "ซื้อของถูก" แต่เรียกว่า "การรับมีด" (Catching a Falling Knife) ซึ่งเป็นหนทางที่เร็วที่สุดในการขาดทุน
กฎเหล็กข้อที่ 1: "The trend is your friend"ก่อนจะคิด "ซื้อเมื่อย่อ" ให้ถามตัวเองก่อนว่า "ภาพใหญ่" (กราฟ Day หรือ Week) ยังเป็นขาขึ้นอยู่หรือไม่? (ราคายังทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) และจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้น (Higher Low) อยู่หรือไม่?)
ถ้าคำตอบคือ "ไม่" หรือ "ไม่แน่ใจ" ให้ "อยู่เฉยๆ" อย่าเพิ่งยุ่งกับมัน
2. เครื่องมือ "วัด" ความลึก: ย่อแค่ไหนถึงเรียกว่า "ถูก"?
เมื่อมั่นใจแล้วว่าหุ้นอยู่ใน "ขาขึ้น" ขั้นต่อไปคือการวัดว่า "โซน" ที่ราคาย่อตัวลงมานั้น เป็น "แนวรับ" ที่แข็งแกร่งหรือไม่ นี่คือ 3 เครื่องมือหลักที่ใช้กัน
เครื่องมือที่ 1: แนวรับแนวนอน (Horizontal Support)
นี่คือวิธีที่คลาสสิกที่สุด "ของถูก" คือ "ราคาเดิมที่เคยมีความสำคัญ"
- แนวคิด: จุดที่เคยเป็น "แนวต้าน" (เพดาน) ในอดีต เมื่อถูกทะลุ (Breakout) ขึ้นไปแล้ว จะ "สลับบทบาท" (Role Reversal) กลายเป็น "แนวรับ" (พื้น) ที่แข็งแกร่งในปัจจุบัน
- การใช้งาน: มองหา "ยอดเขาลูกเก่า" (Previous High) หรือ "ฐานราคา" (Consolidation Zone) ที่ราคาเคยย่ำอยู่ การย่อตัวลงมาทดสอบโซนนี้ ถือเป็น "จุดซื้อเมื่อย่อ" ที่มีนัยสำคัญ
เครื่องมือที่ 2: เส้นแนวโน้ม (Dynamic Trend Line)
"ของถูก" คือ "ราคาที่แตะเส้นแนวโน้มขาขึ้น"
- แนวคิด: ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ราคาจะสร้างจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น (Higher Lows) เรื่อยๆ การลากเส้นเชื่อมจุด Lows เหล่านี้ จะได้ "แนวรับแบบไดนามิก" (Dynamic Support)
- การใช้งาน: การที่ราคาย่อตัวลงมา "แตะ" (Touch) เส้น Uptrend Line เป็นครั้งที่ 3 หรือ 4 ถือเป็นจังหวะ "Buy on Dip" ที่ดี เพราะเป็นการซื้อ "ต้นรอบ" ของการแกว่งตัวครั้งใหม่
เครื่องมือที่ 3: Fibonacci Retracement (ฟีโบนัชชี)
นี่คือเครื่องมือ "ขั้นสูง" ที่เทรดเดอร์ทั่วโลกใช้ "วัด" ระยะย่อตัวที่แม่นยำที่สุด มันบอกเราว่าการย่อตัวนั้น "ตื้น" หรือ "ลึก" แค่ไหน
- วิธีตีเส้น: ในแนวโน้มขาขึ้น ให้ลากเส้น Fibonacci จาก "จุดต่ำสุด" ล่าสุด (Swing Low) ไปยัง "จุดสูงสุด" ล่าสุด (Swing High)
- ระดับ "ของถูก" (The Golden Zone): โปรแกรมจะแสดง "แนวรับ" ที่ซ่อนอยู่โดยอัตโนมัติ ระดับที่มีนัยสำคัญทางจิตวิทยาสูงสุดคือ:
- 38.2%: "ย่อตื้น" (Shallow Dip) - แสดงว่าแนวโน้มแข็งแกร่งมาก แรงซื้อรออยู่เยอะ
- 50.0%: "ย่อครึ่งทาง" (Half-way Back) - จุดวัดใจที่พบบ่อยที่สุด
- 61.8%: "ย่อลึก" (Deep Dip) - มักเรียกว่า "Golden Ratio" หรือ "Golden Pocket" นี่คือ "แนวรับสุดท้าย" ที่หากรับอยู่ มักจะเด้งแรง (แต่ถ้าหลุด... แปลว่าแนวโน้มนี้อาจจบแล้ว)
| เครื่องมือ | "ของถูก" อยู่ที่ไหน? | เหมาะกับสถานการณ์ |
|---|---|---|
| แนวรับแนวนอน | ราคาที่เคยเป็น "แนวต้านเก่า" | ตลาด Sideways หรือเพิ่งทะลุมาใหม่ๆ |
| Trend Line | ราคาที่แตะ "เส้นแนวโน้มขาขึ้น" | ตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน |
| Fibonacci | โซน 38.2%, 50%, หรือ 61.8% | ใช้ได้กับทุกแนวโน้ม เพื่อวัด "ระยะย่อ" |
3. "ของถูก" หรือ "ของเน่า"? (สัญญาณยืนยันว่า "ย่อจบแล้ว")
การที่ราคาตกลงมาถึง "โซน" ที่วัดไว้ (เช่น Fib 50%) ไม่ได้แปลว่า "ต้องซื้อทันที" เพราะราคาสามารถ "ทะลุ" (Breakdown) ลงไปต่อได้เสมอ
มืออาชีพจะไม่ "รับมีด" แต่จะ "รอสัญญาณยืนยัน" (Confirmation) ก่อนว่า "การย่อตัวได้จบลงแล้ว" และ "แรงซื้อ" ได้กลับเข้ามาจริงๆ สัญญาณยืนยันที่สำคัญที่สุดคือ:
1. สัญญาณแท่งเทียนกลับตัว (Bullish Candlestick Pattern)
มองหา "แท่งเทียน" ที่แสดง "การปฏิเสธ" การลงต่อ ณ โซนแนวรับนั้นๆ
- Hammer (ค้อน): แท่งเทียนที่มี "ไส้ล่างยาวๆ" แสดงว่าแรงขายพยายามทุบ แต่แรงซื้อ "ตีกลับ" ขึ้นมาปิดสูงได้
- Bullish Engulfing: แท่งเทียน "สีเขียว" ที่มีเนื้อเทียน "กลืนกิน" แท่งสีแดงก่อนหน้าทั้งแท่ง แสดงว่าแรงซื้อกลับมาชนะขาดลอย
- Doji: แท่งเทียนลังเล (คล้ายเครื่องหมายบวก) แสดงว่าแรงขายเริ่ม "หมดแรง"
2. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
จิตวิทยาของ Volume ตอนย่อตัวที่ "ดี" คือ:
- ตอนย่อ (Dipping): Volume ควรจะ "ลดลง" (แห้ง) -> แปลว่าเป็นการย่อที่ "ไม่มีแรงขาย" จริงจัง (คนแค่ขายทำกำไร)
- ตอนเด้ง (Bouncing): Volume ควรจะ "เพิ่มขึ้น" อย่างมีนัยสำคัญ -> แปลว่า "แรงซื้อ" ที่แท้จริงได้กลับเข้ามาแล้ว
3. สัญญาณ Divergence
มองหา Bullish Divergence ในอินดิเคเตอร์ เช่น RSI หรือ MACD
- สัญญาณ: ราคาทำ "จุดต่ำสุดใหม่" (Lower Low) แต่ RSI/MACD "ไม่ยอมทำจุดต่ำสุดใหม่" (Higher Low)
- จิตวิทยา: "แม้ราคาจะไหลลง แต่ 'พลัง' ของการขายนั้น 'แผ่วลง' อย่างชัดเจน" นี่คือสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ดีที่สุดว่าการย่อตัวใกล้จะจบแล้ว
4. สรุปกลยุทธ์ "Buy on Dip" ฉบับสมบูรณ์ (5 ขั้นตอน)
- [คัดกรอง] หาหุ้น "ขาขึ้น" (Uptrend): ใช้กราฟ Day/Week กรองหาหุ้นที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (ทำ Higher Highs / Higher Lows)
- [รอ] อดทน "รอ" ให้ราคาย่อตัว (Wait for Dip): ห้ามไล่ราคาที่ยอดดอย ปล่อยให้มันย่อตัวลงมา
- [วัด] ตีเส้นหา "โซนซื้อ" (Find Buy Zone): ใช้เครื่องมือ (Fibonacci, Trend Line, S/R) เพื่อระบุ "แนวรับ" ที่มีนัยสำคัญ (เช่น โซน Fib 50% - 61.8%)
- [ยืนยัน] รอ "สัญญาณกลับตัว" (Wait for Confirmation): "ห้ามรับมีด" ให้รอจนกว่าจะเห็นสัญญาณยืนยัน ณ โซนนั้นๆ (เช่น เกิดแท่งเทียน Hammer + Volume เข้า + Bullish Divergence)
- [วางแผน] เข้าซื้อและบริหารความเสี่ยง (Execute & Manage Risk):
- เข้าซื้อ (Entry): หลังจบแท่งเทียนยืนยัน
- ตัดขาดทุน (Stop Loss): ตั้งไว้ "ใต้" โซนแนวรับนั้นๆ (เช่น ใต้ไส้ Hammer)
- เป้าหมาย (Take Profit): ตั้งไว้ที่ "แนวต้าน" เดิม (ยอด High เก่า)
"Buy on Dip" คือกลยุทธ์ของ "นักล่า" ที่อดทน ไม่ใช่ "นักพนัน" ที่สุ่มสี่สุ่มห้า "ของถูก" ไม่ได้หมายถึงราคาที่ตกลงมาเยอะ แต่หมายถึงราคาที่ตกลงมาถึง "แนวรับที่สมเหตุสมผล" และ "แสดงสัญญาณ" ว่าพร้อมจะกลับตัวขึ้นไปในแนวโน้มเดิม
แหล่งอ้างอิง (References)
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET). (2568). การวิเคราะห์ทางเทคนิค: แนวรับและแนวต้าน. เข้าถึงได้จาก www.set.or.th
- Settrade. (2568). Fibonacci Retracement. เข้าถึงได้จาก www.settrade.com
- Pring, M. J. (2014). Technical Analysis Explained. (หนังสืออ้างอิงคลาสสิกด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค)
SKE Solar (ตัวแทนจำหน่าย Sungrow) พร้อมดูแลครบวงจร!
ติดต่อเราเพื่อสำรวจหน้างานและรับคำปรึกษา "ฟรี" ได้เลยวันนี้!
บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SKE Solar)
(ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้ง Sungrow อย่างเป็นทางการ)
โทร: 045-905-215
เว็บไซต์: www.supsaringkan.co.th
Facebook: facebook.com/SKESolarEnergyUbon
LINE: @760fgpmx
#โซล่าเซลล์อุบล #ภาคอีสาน #SKEolar #Sungrow #ขออนุญาตPEA #ROI #ติดตั้งทั่วไทย
© 2025 บริษัท ทรัพย์ศฤงคาร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ | Copyright © 2025 Supsaringkan Engineering Co., Ltd. All Rights Reserved.
Miss Kaewthip



